แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - อินทะเนียร์น้อย

หน้า: 1 ... 280 281 [282] 283 284 ... 405
4216

น้านนนนว่าแล้วไง..ได้คำตอบ จาก ท่าน อดุลย์ แล้ว  อิอิ...(เสียบรรยากาศหมด  เฮ้อ  อิอิ)

มาที่ มุมมองของ จอมยุทธ์ หญิงแห่งสำนักฯเรามั่ง  ..ว่าไปเลย ตัวสีแดงนะจ๊ะ   อิอิ

สิ่งที่บ่งบอกถึงความแก่
1. ไม่ยอมเล่นสงกรานต์ 
    เล่นครั้งล่าสุด อายุ 25 ( สาเหตุที่เล่นเพราะปั๊มน้ำจากคลองมาขาย 20บาท/ถัง 200ลิตร)

ตอนนี้ 26  ยังใช้ได้อยู่ครับ  ..เพิ่งเลิกเล่น  อิอิ

2. ไม่ยอมเล่นน้ำทะเล   
    ยังเล่นบ้างเป็นบางครั้ง แล้วแต่อารมณ์
..ยังไม่หลุดโค้ง เขาหลักการอยู่  อิอิ..กลัวปลิงทะเล  ถ้ามีบอรดีการด ลงเล่น   อิอิ

3. ไม่ชอบไปสวนสนุก   
    ไม่มีใครพาไป ยังชอบอยู่นะ

...เย้ย...มีลุ้นจากเหล่าจอมยุทธ์ สุภาพบุรษ..ยังอยู่ในสเป็ค..น่าชื่นใจจริง คำนี้สำหรับxxxx

4. เบื่ออาหารบุฟเฟ่ต์     
    บางทีก็มีมิติดีนะคะ
..เห็นด้วย ข้อนี้ ไม่สมบรูณ์ ตกหลักการไปครับ  ไม่นำมาคิด

5. ห่วงบ้านเวลาไ่ม่มีคนอยู่
    ไม่รู้จะห่วงบ้านไหนดี  ;D
..ว้าว...หลายหลัง

6. ชอบนัดเพื่อนตอนกลางวัน
    ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร จะนัดกันเฉพาะงานสำคัญ งานแต่ง งานศพ
..ตรงสเป็คกับหลายท่าน ..รอลุ้นผลFB(feedback)

7. ชอบไปไหนแต่เช้าและกลับถึงบ้านก่อนค่ำ
    ชอบไปตอน บ่ายๆ กลับก่อนสามทุ่ม
..ใกล้เคียง  แต่ถือว่าตกไป..ไม่ได้เเต้ม

8. ได้นั่งแถวหน้าและได้ถวายของเวลาทำบุญ
    กลัวพระ ไม่ค่อยเข้าใกล้เท่าไหร่

...ตกไปเช่นกัน..(ชอบเดินนำหน้าพระ จร้าาาา  อิอิ)
9.  เริ่มกินอาหารเพื่อสุขภาพ
    ไม่ค่อยคิดอะไรกับเรื่องกิน เจอของน่ากิน รีบกินก่อน (กลัวตายแล้วไม่ได้กิน)
..ไม่ได้เเต้มเช่นกัน...กินทุกอย่าง  อิอิ

10. ไปไหนต้องมีของฝากคนนู้นคนนี้
     ไม่ค่อยฝากใครเพราะขี้เกียจแบกกลับ
...ไม่ได้เเต้ม...เอาหัวใจมาฝากก็พอครับ  ...ท่านjubu     อิอิ

11. มักจะดูหนังที่บ้าน และดูไม่ค่อยจบ
     เป็นประจำ หลับคาจอ
..ข้อนี้ คะเเนน เต็มครับ  อิอิ

12. เวลาไปเที่ยวมักจะขนของไปเยอะมากและไม่ได้ใช้
     ไม่นะ มักจะไปซื้อที่เซเว่นหากจำเป็นต้องใช้
..เต็มเช่นกัน ..ระวังโจร โรคจิตนะครับ  ท่่านjubu...เข้าไปซื้อต้องมี บอร์ดี้การ์ด  นะครับ

13. ใส่รองเท้าดอร์ทมุนด์
      ยังใส่คอนเวิร์ทอยู่นะคระ แต่ดอร์ทมุนต์บางแบบก็เก๋ดี ไม่ใส่เพราะราคาสูงไปหน่อย
..ว้าว...วัยสะรุ่น..จัง  เต็ม A +..

14. มักจะออกตัวว่าช่วงนี้อ้วนมาก แก่แล้ว ไม่ได้แต่งหน้า บ้านรก
      ยอมรับว่าแก่ แต่ใครๆมักจะไม่เชื่อว่าอายุมาก ....อิอิ อิอิ
...เต็มอีกแล้ว...เพราะคำว่า...เชื่อว่าอายุมาก...ว้าว

15. มักพูดว่า เด็กสมัยนี้...
      ดว่า เด็กเมักพูปรต
..ด้วยครับ..เด็ก..เวรตะไล...อิอิ

***** สรุปว่า แก่อ่ะเป่า  ;D ;D....
สรุปว่า...ยังไม่เเก่  ครับ  ท่าน jubu...วัยละอ่อน..น่ารัก  ง่ะๆๆๆๆ

   รุ่นท่าน adulmr ท่านอินทะเนียร์น้อย ต้องรดน้ำดำหัวเท่านั้น  ;D ;D ;D
...เพิ่ม.ต้อง บีบนวดด้วยครับ(แต่อย่ามาบีบไปxx  นะครับ อิอิ)..อย่าหามละกัน  อิอิ 
 
....FAMILY DAY
F = Father
A = and
M = Mother
I = I
L = love
Y = you


 จบข่าว :D :D :D :D


4217
ห้องสภากาแฟและอื่นๆ / Re: แตงโมไม่มีเมล็ด
« เมื่อ: เมษายน 25, 2014, 06:01:47 AM »
ดีครับท่าน อดุลย์ ...จะได้ให้ไปเขี่ยเม็ดออก ที่นั่นแหละ   อิอิ   จบข่าว :D :D :D :D :D

<a href="http://www.youtube.com/v/gWhU-Rv3Vnc" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/gWhU-Rv3Vnc</a>

4218
ขอปรบมือให้..คณะก่อตั้งชมรมฯนี้นะครับ...เป็นการสร้างชาติด้วยมือน้อยๆของจอมยุทธ์ผู้กล้าของแผ่นดินนี้จริงๆครับ...ท่านมีความรู้ความสารถมาช่วยกันสร้างคนในชาติ เป็นแนวทางให้เยวชนผู้มุ่งมั่นในสาขาวิชานี้ดีจริงๆครับ  ไม่สามารถปฏิเสธได้อีกต่อไปแล้วว่า  เทคโนโลยี มันเข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตของมนุษย์ แทบทุกมิติครับ  หากท่านหยุดนิ่ง  ...ท่านจะเป็นผู้เสียเปรียบทันที....ขอสนับสนุน ชมรมของอาจารย์ssuebak  อย่างเป็นทางการครับ   ขออนิสงค์ เเห่งการสร้างสรรนี้ของท่านและคณะ  จงประสบผลสำเร็จและเจริญก้าวหน้าไป เป็นที่พึ่งของ คนในชาติและเยวชน ของไทยไปตลอด   ขอให้รวยๆๆๆๆๆๆ   จบข่าว :D :D :D :D :D :D
ปล รอลุ้น ดูความหล่อ เทห์ ของอาจารย์ ..ตลอดความยาวคลิป นึกว่าจะไม่ได้เห็นสะเเล้ว..แหละเเล้ว..พระเอกก็มาตอนหนังใกล้จะจบ  จริงๆ  ..อิอิ(ยังเล่นน้ำสงกานต์ได้อยู่นะครับ ท่านjubu )
..อาจารย์ ท่านอื่นๆก็เทห์..สุดๆๆ เช่นกันนะครับ  ไม่ต้องเสียใจครับ  สวดยอด

4219
ห้องสภากาแฟและอื่นๆ / Re: แตงโมไม่มีเมล็ด
« เมื่อ: เมษายน 24, 2014, 06:04:05 AM »
เป็นแบบนี้ครับ  ท่านyommatood..อิอิ   จบข่าว :D :D :D :D :D :D :D
ปล สีเสื้อคนผ่านะมัน น่ารักจริงๆๆๆๆจร้าาาาา

 <a href="http://www.youtube.com/v/FuYIj6qzrCU" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/FuYIj6qzrCU</a>

4220
ใช่ครับ..หานายก หญิง  ยากจริงๆประเทศนี้...ได้มาก็คิดว่าเป็นแล้วครับ ท่าน yommatood..ขอให้อยู่เป็นศักดิ์เป็นสี..กับประเทศนานๆๆ..นะจ๊ะ....อิอิ..คนต่อไป อยากได้ เวอร์ชั่น..กระเทย  มั่งครับ  พี่น้อง....อิอิ   เห็นมีแววอยู่หลายท่าน...มาให้ ครม ปริ๊ดแตก...มันส์ กันไปเลย...เขมร เวียตนาม พม่า ..ล้ำหน้าไปถึงไหนแล้วก็ไม่ทราบ..ที่นี่ ..มัวแต่..รักษากิริยามารยาท..กันอยู่นั่น..นั่งยองๆหนีบ..มีไรเป่า..จบข่าว :D :D :D :D :D

4221
ขำๆๆ....มาอีกแหละ ดูสิว่าจะทนได้มั๊ย...เรื่อง ชีวิตเปลีอยเปล่า ..เงียบ..ไม่โดน...เเต่ว่ามันมีอยู่ข้อนะครับ  ..ตรงๆๆๆ....ในมหาวิทยาลัยสักแห่ง ,70% ของศาสตราจารย์เป็นพวกไร้สาระ...อิอิ...ครงหรือไมตรง..ว่ากันไป
มาที่เรื่อง..ชีวิตที่เปลือยเปล่าที่เข้าใกล้โลง  มั่ง...คงไม่มีใครเถียงนะครับว่า  เกิดมาแล้ว ไม่ตาย..ถ้าไม่อยากตายก็เป็น  แม่มด  ,,ละกัน   อิอิ..เข้าหนังเรื่อง....

สิ่งที่บ่งบอกถึงความแก่
1. ไม่ยอมเล่นสงกรานต์
2. ไม่ยอมเล่นน้ำทะเล
3. ไม่ชอบไปสวนสนุก
4. เบื่ออาหารบุฟเฟ่ต์
5. ห่วงบ้านเวลาไ่ม่มีคนอยู่
6. ชอบนัดเพื่อนตอนกลางวัน
7. ชอบไปไหนแต่เช้าและกลับถึงบ้านก่อนค่ำ
8. ได้นั่งแถวหน้าและได้ถวายของเวลาทำบุญ
9. เริ่มกินอาหารเพื่อสุขภาพ
10. ไปไหนต้องมีของฝากคนนู้นคนนี้
11. มักจะดูหนังที่บ้าน และดูไม่ค่อยจบ
12. เวลาไปเที่ยวมักจะขนของไปเยอะมากและไม่ได้ใช้
13. ใส่รองเท้าดอร์ทมุนด์
14. มักจะออกตัวว่าช่วงนี้อ้วนมาก แก่แล้ว ไม่ได้แต่งหน้า บ้านรก
15. มักพูดว่า เด็กสมัยนี้...


ถ้า 15 ข้อเป็นจริง...ต่อไประวังอย่าเผลอตัว เเอ๊คอาร์ท..ไปตรงกับข้อใดข้อหนึ่งละกัน   อิอิ..รู้นะ ..กลายเป็นตัวแก่  แล้ว   อิอิ    จบข่าว :D :D :D :D :D :D :D

4222
ห้องสภากาแฟและอื่นๆ / Re: แตงโมไม่มีเมล็ด
« เมื่อ: เมษายน 23, 2014, 07:28:23 AM »
ขอขอบคุณ ท่าน อดุลย์ ที่นำเทคนิคการ กินเเตงโม...มาฝากครับ  ถูกใจพวกที่ชม แตงโม..จริง...หลายท่าน ไม่ได้กินแตงโมหรอกนะครับ  ได้แต่ลิ้มรสเปลือกเเตงโม...อิอิ   ...เฮ้อ  น่าอิจฉา  จัง...เปิดดูภายในเเตงโม  ดูมั่งนะจ๊ะ..เเดงสด.เม็ดสวย...อิอิ..ที่ไร้เม็ดก็ เทห์ไปอีกแบบ..เม็ดห้ามกัด หรือกิน นะจ๊ะ  ต้อง เขี่ย อย่างเดียว ..เออๆๆๆ..ไม่ต้องใช้ช้อนเขี่ย แบบ ท่าน อดุลย์ นะจ๊ะ.อิอิ
..มาดูน้อง สองสาว ใช้แตงโม ชาร์จ..ไอโฟน  ได้ด้วยยยย   สุดยอด   จบข่าว :D :D :D :D :D :D
ปล..คนกดไลท์ น้อยกว่า ทั้งๆที่ น้องหนูทั้งสองก็หวังดีนะครับ  ขอให้กำลังใจน้องสองคนนี้นะครับ..จิตอาสา น่ารักทั้งคู่...

<a href="http://www.youtube.com/v/4565S97oQpA" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/4565S97oQpA</a>

4223
ยังเศร้า..อยู่กับ เรือเฟอรี่ล่มที่เกาหลีนะครับ....ปัญหามาจาก ขนขับเรือ...ข่าวบางกระเเสบอกว่าให้ น้องหนูมือใหม่ถือพวงมาลัยเเทนในช่วงนั้น...แล้วตัวเองหายไปไหน....ที่เลวร้าย  เมื่อเกิดเหตุการที่เรือเอียง...ยังช่วยเหลือช้าอีก...มีเพื่อนเคยบอกว่า...พวก กัปตันนี่ไม่ต้องเอาคนเรียนเก่งไปทำหรอก  อย่างกัปตันเครื่องบินนี้่  ก็ไม่ต้องเอาคนที่เรียน หมอ วิศวฯไปทำหรอก  ..เหตุผลคือ...พวกเรียนมาก รู้มาก ตัดสินใจช้า เพราะมันคิด ทบทวนอยู่หลายครั้ง  ..คิดมันอยู่นั่นแหละ  จนเครื่องบินตก..ตายห่ากันหมดทั้งลำ...พวกเรียนไม่มาก ตัดสินใจไว  ครับ...ดังนั้น กัปตันที่ที่เป็นหมอ นะเรียนมาผิดละนะ  รัฐลงทุนให้มาเรียนหมอนะ เเพงนะครนับ  เพื่อช่วยคน ไม่ใช่มาขับเครื่องบิน...ถ้าอยากจะขับเครื่องบินไม่ต้องมาเรียนถึงขนาดนี้  ไปกันคนที่อยากจะเป็นหมอจริงที่ต้องการเพื่อนมนุษย์ครับ...เรียกว่า ใช้คนผิดประเภท  กลุ้ม....เเต่คนขับเรือลำนี้คงไม่ใช่หมอนะครับ...อิอิ
..ขอชม  พี่กันที่ส่ง ฮ  มาช้วย  สุดยอด...นี่ก็เป็นผลงานวิศวกรรม อีกชิ้นที่น่าชื่นใจ..(ใช้มันให้เป็นละกัน   อิอิ)   จบข่าว :D :D :D :D :D :D :D :D





4224
ผ่านมา หนึ่งคืน...ไม่มีเมนทื เลย แสดงว่า...ส่วนใหญ่ ตามนั้น...อิอิ....ดีใจด้วยที่ ปล่อยวาง...คิดว่าคนเขียนมาก็  ขำๆ...คนขับรถฟาดคุณนาย...มันจะเว่อไปหน่อยนะครับ คนที่เขียนมานะ...รวยขนาดนี้ หา  คนมารับช่วงยากนี่ผิดปกต..หรือ  ว่าตอนมีชีวิตอยู่ ก็แอบ ส่งซิกกันอยู่จน ..เฮีย หวางฯ...เลย  ขอลาโลก  เพราะ เรื่องพรรนี้  อิอิ...กลุ้ม
..และคนเขียนเรื่องนี้ ไปทราบได้ไง  ว่า 70%  ไม่ได้ใช้ ..รุ่น อาม่า..ใช้100%  อะ..เกินด้วย เพราะ ใช้เป็นไฟฉาย..แว่นขยาย..สารพัด  ..ยังเหลือ แต่ใช้ ต้มกาแฟ เท่านั้น..อิอิ....เอ้า..ใครจะเรียนแอบ..ขอให้โชคดีนะจ๊ะ   อิอิ   จบข่าว :D :D :D :D :D :D :D

<a href="http://www.youtube.com/v/SQ71AVFVFdU" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/SQ71AVFVFdU</a>

4225
ยังหาเบอร์ น้องเปิลไม่ได้นะครับ....มีผู้หวังดีส่งเรื่องราว เมาต์กระจายมาให้อีกแหละ  เชื่อว่าหลายท่านคงได้รับแล้วนะครับ...ท่านที่ยังไม่เคยได้รับก็ลองอ่าน ขำๆกันมั่ง  ดีกว่า ฟังพวกรักชาติทั้งหลายที่กำลังทำหน้าที่ ที่น่ารำรวญจริง..ทั้งหัวหงอกหัวดำ..เฮ้อ  รักชาติกันอย่างน่าชื่นใจ...ไปฟังหมอดี อีที มั่งก็ดีนะจ๊ะ...อิอิ(หายไปทั้งรัง  อิอิ)
...อ่านข้อความที่ได้รับ  มาก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นครั้งแรกหรือเปิดซิงนะครับ  มาจนรำคาญ ไอ้คนเขียนเรื่องเหล่านี้ขึ้นมา มันว่างมาจริงๆนะครับ...มาในเเถวนี้ต้อง ขอวิจารณ์ กันหน่อยนะจ๊ะ...แหม่บอกให้ส่งไป อีก 9 คน  ..มามุกเดิมอีกแหละ...มีบางกลุ่ม ส่งแล้วรวย...เฮ้อ  อะไรจะปานนั้น...มีบางกลุ่มสิน่า ทืบ..มันบอกว่า ถ้ารับแล้ว ไม่ส่งไปให้ได้ 9 คนจะมีเคราะห็..นี่มาแนวบังขู่เข็ญ..น่าฟาดจริงๆ...อ่านแล้ว เมาต์กันเลยครับ  พี่น้อง...อินทะเนียร์น้อย...อ่านไปน้ำตาไหลไป ..สงสารคนขับรถ..ขับรถให้เจ้านายก็ลำบากพอคน  นี่ให้มาฟาดคุณนาย หนังเหี่ยวอีก  ..ว่าไปเลย..เงินเยอะนี่ อิอิ...จริงมันเป็นได้หรือครับ...คนเเต่งมันเพี้ยน ครับ..ไม่ได้ส่งเสริม ศิลธรรมเลย ส่งเสริมอยู่เรื่าองเดียว แหละ..โรคจิตหรือ เป่า   อิอิ    จบข่าว :D :D :D :D :D :D
ปล  ปล่อยเรื่องนี้ ออกไป  ..จะดูสิว่าใคร ทนไม่ได้ที่มีคน เขียนเรื่องไร้สาระแล้วส่งทางโซเชียลฯ ไปให้คนอื่น อ่าน...ถ้าเงียบ..เเสดงว่า...อะ..อะ...รู้นะ   อิอิ

มองชิวิตที่เปลือยเปล่า

คนอยู่บนสวรรค์ เงินอยู่ในธนาคาร ; คนเราตอนมีชีวิตอยู่ก็ไม่มีเงินใช้  ตายแล้วเงินก็ยังใช้เงินไม่หมด หวางจวินเหยานักธุรกิจผู้ยิ่งใหญ่ในเจ้อเจียงเสียชีวิตในขณะที่อายุยังไม่มาก เหลือเงินฝากไว้ให้ภรรยา 1,900,000,000 และภรรยาได้แต่งงานใหม่กับคนขับรถของคุณหวางในสมัยที่คุณหวางยังมีชีวิตอยู่

ในขณะที่คนขับรถคนนั้นใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เขาก็คิดว่า”แต่ก่อน เรานึกว่าเราเป็นคนทำงานให้เจ้านาย ตอนนี้เราเพิ่งเข้าใจแล้วว่าเจ้านายทำงานให้เรามาตลอด

ความจริงที่โหดร้ายนี้เป็นตัวแสดงว่า : มีชีวิตที่ยืนยาว สำคัญกว่าความรวยความหล่อ ขอให้ทุกคนหมั่นออกกำลังกาย ระวังสุขภาพ  ใครเป็นฝ่ายทำงานให้ใครนั้นพูดยาก

โทรศัพท์ที่ทันสมัย1เครื่อง,  70%ของฟังก์ชั่นในโทรศัพท์นั้นไม่มีประโยชน์
รถหรูๆ 1 คัน  , 70%ของความเร็วนั้นเหลือใช้
บ้านหรูๆ 1 หลัง, 70%ของพื้นที่นั้นว่างเปล่า
ในมหาวิทยาลัยสักแห่ง ,70% ของศาสตราจารย์เป็นพวกไร้สาระ
กิจกรรมทางสังคมหลายอย่าง , 70% เป็นกิจกรรมที่น่าเบื่อ
เสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน , 70% ไม่ได้ใช้ ไร้ประโยชน์
เงินที่หามาทั้งชีวิต , 70% ก็ทิ้งไว้ให้ผู้อื่นใช้

สรุป: ชีวิตที่เรียบง่าย ให้สนุกกับการใช้ชีวิต 30% ที่เป็นของคุณ  ไม่เจ็บปวดแต่ก็ต้องบำรุง ไม่กระหายแต่ก็ต้องดื่มน้ำ ว้าวุ่นแค่ไหนก็ต้องปล่อยวาง  มีเหตุมีผลแต่ก็ต้องยอมคน  มีอำนาจแต่ก็ต้องรู้จักถ่อมตน ไม่เหนื่อยแต่ก็ต้องพักผ่อน ไม่รวยแต่ก็ต้องรู้จักพอเพียง ธุระยุ่งแค่ไหนก็ต้องรู้จักพักผ่อน
หมั่นเตือนตน:  ชีวิตนี้สั้นนัก
หากเวลาของคุณยังมีเหลือเฟือ ส่งต่อข้อความเหล่านี้ต่อให้เพื่อนของคุณ  ให้เพื่อนได้อ่านบ้าง เพื่อจะได้ใส่ใจตัวเองบ้าง
ดังนั้น
อยากกิน...กิน,
อยากเที่ยว....เที่ยว
เรื่องกลุ้มอย่าเก็บไว้,
สุขสบายทุกเพลา,
เวลาที่ยังจับมือไหว
ให้เชิญเพื่อนมาสังสรรค์,
เวลาที่ยังกอดไหว
ให้โอบกอดให้ชื่นใจ,
ทำหน้าที่พ่อ แม่ ลูก สามี ภรรยา พี่ น้อง เพื่อนที่ดีต่อไป,
เวลาที่อยู่ด้วยกัน
อย่าได้โกรธกันง่ายๆ

โปรดส่งต่อให้เพื่อนๆอีก9คน
เพื่อแสดงว่า...คุณยังมีเพื่อน
และ...ฉันเป็นเพื่อนคุณ

4226
อย่างที่ ท่าน อดุลย์ บอกคนเรามักจะมองไม่เห็นว่า ตัวเอง แก่  อิอิ   คลิปที่เเล้วที่คนขึ่ จยย เถียง ตร จร...ฟังเป็นกลาง ไอ้นี่ เต็มๆ...มีใบขับขี่แล้ว ตร จร จับไม่ได้ถ้าทำผิด...เฮ้อ...แบบนี้ก็มีในบ้านนี้เมือง  อ๋อ..ผิดแบบไมเจตนา เพราะหา เช้ากินคำ่..ใครถามมัน..นสพ บางฉบับ ยังเอามาลงอีก...นี่เป็นการส่งเสริมคนผิดจริงครับ..น่าเบื่อ
...นี่ก็ดูคลิปนี้ ดีๆนะครับ...ท่านที่มีใบขับขี่สอบ(ไม่ได้ซื้อ อะ  อิอิ)...รุกระบะ เขาห้ามแล่นเลนขวานะครับ  ที่ทราบเพราะไปช่วยค่า ตาบัค ดาบมาแล้วๆๆ  อิอิ...เมื่อออกเลนขวาสุด จะต้องเป็นรถที่แล่นไวแต่ไมินกำหนด นะจ๊ะ..น่าจะไม่ให้เกิน 120km/h...นี่พี่เเก ฟาดซะ ยางระเบิด  ...ดีไม่ตายหxx....งานนี้ ...ยาวละ ทั้งค่าปรับ ค่าซ่อมรถ...วิศวกรสร้างรถมาให้พวก คนป่ามีปืนใช้จริงๆครับ...กลุ้ม (สงสาร วิศวกร จัง  ฮือๆๆๆ)  จบข่าว :D :D :D :D :D :D :D :D :D
<a href="http://www.youtube.com/v/CWvjZ-966gA" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/CWvjZ-966gA</a>

<a href="http://www.youtube.com/v/rp8hvyjZWHs" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/rp8hvyjZWHs</a>

4227
ผึ้งที่นครศรีธรรมราช...เข้าวัด จำศิล...ใจบุญจริงๆๆๆๆ....ท่าน สว  ..ว่างๆก็ว่างเว้นจาก น้ำผึ้งหมักกล้วยน้ำว้า  ก็ไม่เลวนะครับ...อิอิ   จบข่าว :D :D :D :D :D :D :D :D

4228
ต่อครับ........

ระหว่างที่เดินทางท่องเที่ยว ไอน์สไตน์ได้เขียนบันทึกประจำวันส่งให้ภรรยาใหม่ของเขา คือเอลซา กับบุตรบุญธรรมอีกสองคนคือมาร์ก็อตและอิลซา จดหมายเหล่านี้รวมอยู่ในเอกสารที่ยกให้แก่มหาวิทยาลัยฮีบรู มาร์ก็อต ไอน์สไตน์ อนุญาตให้เผยแพร่จดหมายส่วนตัวแก่สาธารณชนได้ แต่จะต้องเป็นเวลา 20 ปีหลังจากเธอเสียชีวิตแล้วเท่านั้น (มาร์ก็อตเสียชีวิตในปี พ.ศ.2529) บาร์บารา โวลฟ์ ผู้ดูแลรักษาเอกสารของไอน์สไตน์ที่มหาวิทยาลัยฮีบรู ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์บีบีซีว่า มีจดหมายติดต่อส่วนตัวระหว่างช่วงปี พ.ศ.2455-2498 เป็นจำนวนมากกว่า 3,500 หน้า

สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา จัดสร้างรูปปั้นอนุสรณ์อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เป็นทองแดงและหินอ่อนและสลักโดยโรเบิร์ต เบิร์คส์ ในปี พ.ศ.2522 ตั้งอยู่ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี ใกล้กับ National Mall

ไอน์สไตน์ทำพินัยกรรมยกลิขสิทธิ์การใช้งานภาพของเขาทั้งหมดให้แก่มหาวิทยาลัยฮีบรู กรุงเยรูซาเล็ม ต่อมา บริษัท คอร์บิส คอร์ปอเรชั่น ได้รับอนุญาตให้ใช้ชื่อและภาพต่างๆ ของเขา ในฐานะตัวแทนผู้มีอำนาจแทนมหาวิทยาลัยฮีบรู

เกียรติคุณและอนุสรณ์เกิดขึ้นใน พ.ศ.2542 อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ได้รับยกย่องเป็น “บุคคลแห่งศตวรรษ” โดยนิตยสารไทมส์ กัลลัพโพล ได้บันทึกว่าเขาเป็นบุคคลผู้ได้รับการยกย่องสูงที่สุดอันดับ 4 แห่งคริสต์ศตวรรษที่ 20และจากการจัดอันดับ 100 บุคคลผู้มีอิทธิพลอย่างสูงในประวัติศาสตร์ ไอน์สไตน์เป็น “นักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งคริสต์ศตวรรษที่ 20 และหนึ่งในสุดยอดอัจฉริยะตลอดกาล”

อนุสรณ์ส่วนหนึ่งที่ยังจับต้องได้ในโลกปัจจุบันคือ สหพันธ์นานาชาติฟิสิกส์บริสุทธิ์และฟิสิกส์ประยุกต์ ได้กำหนดให้ปี พ.ศ.2548 เป็น “ปีฟิสิกส์โลก” เพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง 100 ปีครบรอบการตีพิมพ์ Annus Mirabilis Papers สถาบันอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ อนุสรณ์สถานอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ โดย โรเบิร์ต เบิร์คส์ หน่วยวัดในวิชาโฟโตเคมี ชื่อว่า ไอน์สไตน์ เคมีธาตุลำดับที่ 99 ชื่อ ไอน์สไตเนียม (einsteinium) ดาวเคราะห์น้อย 2001 ไอน์สไตน์ รางวัลไอน์สไตน์ รางวัลสันติภาพไอน์สไตน์

ปี พ.ศ.2533 ได้มีการจารึกชื่อของไอน์สไตน์เข้าไว้ใน วิหารวัลฮัลลา หอเกียรติยศซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำดานูป ประเทศเยอรมัน


4229




หลายท่าน ชื่นชอบและศรัทรา ท่าน..นี้ครับ...สุดยอดอั๗ฉริยะ  ของโลก  ที่หาใรเทียบเท่าได้...ขอขอบคุณ นสพ บ้านเมืองที่ลง ประวัติความเป็นมาของท่าน ให้คนรุ่นหลังได้ ฝันไปไกลเหมือนท่าน  และเป็นฝันที่เป็นจริงด้วยยย...ขอปรบมือให้ นสพ บ้านเมืองครบๆๆๆ(ฉบับ อื่น เน้นไปทาง  ผัวๆเมียๆ(น้อย) ....ฆ่ากันตายเพราะไอ้นั่นไม่เว้นแต่ละวัน..เฮ้อ(หาสาระให้เยวชนไทยดู  ยากกกกก   )   จบข่าว :D :D :D :D :D :D
ปล ท่านได้ลาโลกไป ในเือนี้นะครับ  เมื่อ ราว ห้าสิบก่อน...เมื่อเดือนเมษายน นี่แหละ  อ่านดูละกัน

 อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ยอดอัจฉริยะ
โลกผ่านวันรำลึกสำคัญในสัปดาห์นี้อีกวันหนึ่ง…เป็นวันสุดท้ายของชีวิตผู้ที่ถูกยกให้เป็นสัญลักษณ์อัจฉริยะ ซึ่งแม้ทฤษฎีสัมพันธภาพที่เขาคิดขึ้นมาจะคร่าชีวิตมนุษย์ที่คิดต่างกันกว่า 2 แสนคนในปฏิบัติการเพียงครั้งเดียวก็ตามที…”

คนสำคัญผู้นี้คืออัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักวิทยาศาสตร์ยอดอัจฉริยะ ในช่วงศตวรรษที่ 20 ผู้ยุติสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วยระเบิดปรมาณูอันทรงอานุภาพแห่งการทำลายล้าง

บาดแผลที่เกิดในหัวใจเขาถึง 20 ปีหลังจากนั้นเริ่มต้นจากตัวเขาเองเพราะเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดขึ้น ไอน์สไตน์ ได้ส่งจดหมายฉบับหนึ่งถึงประธานาธิบดีแฟรงคลิน ดี.รูสเวลท์ (Franklin Delano Roosevelt) เกี่ยวกับคุณประโยชน์ของ แร่ยูเรเนียมที่สามารถนำมาสร้างลูกระเบิดพลังงานการทำลายล้างรุนแรง เพื่อบังคับให้ญี่ปุ่นประกาศแพ้สงคราม และนำสันติภาพ (กับความยิ่งใหญ่ของอเมริกา) มาสู่โลกอีกครั้งหนึ่ง ระเบิดปรมาณูลูกแรกของโลกลงที่เมืองฮิโรชิมา (Hiroshima) ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งส่งผลให้คนเสียชีวิตทันทีกว่า 60,000 คน และเสียชีวิตภายหลังอีกกว่า 100,000 คน
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (14 มีนาคม พ.ศ.2422-18 เมษายน พ.ศ.2498) เป็นนักฟิสิกส์ทฤษฎี ชาวเยอรมันเชื้อสายยิวที่มีสัญชาติสวิสและอเมริกัน (ตามลำดับ) ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 20 เขาเป็นผู้เสนอทฤษฎีสัมพัทธภาพ และมีส่วนร่วมในการพัฒนากลศาสตร์ควอนตัม สถิติกลศาสตร์ และจักรวาลวิทยา เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ในปี พ.ศ.2464 จากการอธิบายปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก และจาก “การทำประโยชน์แก่ฟิสิกส์ทฤษฎี” ในปี ค.ศ.1905 เมื่อไอน์สไตน์อายุ 26 ปี เขาได้ตีพิมพ์การค้นพบสมการ E = mc 2 (E คือพลังงาน m คือมวล c คือความเร็วของแสง)

ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามวลขนาดเล็ก สามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานมหาศาลได้ สมการนี้นำไปสู่การสร้างระเบิดอะตอม ซึ่งเป็นเรื่องที่ทิ่มแทงจิตสำนึกของไอน์สไตน์มาตลอด 20 ปีสุดท้ายของชีวิตดังที่กล่าวแล้ว

แบบอย่างของความฉลาดหรืออัจฉริยะ ความนิยมในตัวของเขาทำให้มีการใช้ชื่อไอน์สไตน์ในการโฆษณา หรือแม้แต่การจดทะเบียนชื่อ “อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์” ให้เป็นเครื่องหมายการค้า เป็นที่เคารพนับถือ ทั้งในความเชื่อในความสง่า ความงาม และความรู้แจ้งเห็นจริงในจักรวาล (คือแหล่งเสริมสร้างแรงบันดาลใจในวิทยาศาสตร์ให้แก่นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่) เป็นสูงสุด ความชาญฉลาดเชิงโครงสร้างของเขาแสดงให้เห็นถึงองค์ประกอบของจักรวาล ซึ่งงานเหล่านี้ถูกนำเสนอผ่านผลงานและหลักปรัชญาของเขาในทุกวันนี้

เขาเคยกล่าวถึงศาสนาพุทธ ว่า “ศาสนาในอนาคต จะต้องเป็นศาสนาสากล ศาสนานั้นควรอยู่เหนือพระเจ้าที่มีตัวตน และควรจะเว้นคำสอนแบบสิทธันต์ (คือเป็นแบบสำเร็จรูปที่ให้เชื่อตามเพียงอย่างเดียว) และแบบเทววิทยา (คือพึ่งเทวดาเป็นหลักใหญ่) ศาสนานั้นเมื่อครอบคลุมทั้งธรรมชาติและจิตใจ จึงควรมีรากฐานอยู่บนสามัญสำนึกทางศาสนา ที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ต่อสิ่งทั้งปวง คือ ทั้งธรรมชาติและจิตใจอย่างเป็นหน่วยรวมที่มีความหมาย พระพุทธศาสนาตอบข้อกำหนดนี้ได้…ถ้าจะมีศาสนาใดที่รับมือได้กับความต้องการทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ปัจจุบันศาสนานั้นก็ควรเป็น พระพุทธศาสนา”

ไอน์สไตน์ได้ตีพิมพ์ผลงานทางวิทยาศาสตร์มากกว่า 300 ชิ้น และงานอื่นที่ไม่ใช่วิทยาศาสตร์อีกกว่า 150 ชิ้น ปี พ.ศ.2542 นิตยสารไทมส์ยกย่องให้เขาเป็น “บุรุษแห่งศตวรรษ”

ไอน์สไตน์ถึงแก่กรรมที่พรินซ์ตัน นิวเจอร์ซีย์ ในเดือนเมษายน ค.ศ.1955 จวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต เขายังคงชิงชังวิธีการทำลายล้างอันน่าสะพรึงกลัวของระเบิดนิวเคลียร์ ที่นักฟิสิกส์มีส่วนสร้างให้กับโลก เขาเคยกล่าวไว้ครั้งหนึ่งว่า

“หากข้าพเจ้ารู้ล่วงหน้าว่าทฤษฎีของข้าพเจ้า

จะนำไปสู่การทำลายล้างอย่างมหันต์เช่นนี้

ข้าพเจ้าขอเป็นช่างทำนาฬิกาเสียดีกว่า”

ชีวิตและผลงานของอัจฉริยะคนนี้มีอยู่ว่า ไอน์สไตน์เกิดในเมืองอูล์ม ราชอาณาจักรเวือร์ทเทมแบร์ก สมัยจักรวรรดิเยอรมัน ห่างจากเมืองสตุ๊ตการท์ทางตะวันออกประมาณ 100 กิโลเมตร ซึ่งในปัจจุบันคือรัฐบาเดิน-เวือร์ทเทมแบร์ก ประเทศเยอรมนี บิดาของเขาชื่อว่า แฮร์มานน์ ไอน์สไตน์ เป็นพนักงานขายทั่วไปซึ่งกำลังทำการทดลองเกี่ยวกับเคมีไฟฟ้า มารดาชื่อว่า พอลลีน โดยมีคนรับใช้หนึ่งคนชื่อ คอช ทั้งคู่แต่งงานกันในโบสถ์ในสตุ๊ตการ์ท (เยอรมัน : Stuttgart-Bad Cannstatt) ครอบครัวของเขาเป็นชาวยิว (แต่ไม่เคร่งครัดนัก) อัลเบิร์ตเข้าเรียนในโรงเรียนประถมคาธอลิก และเข้าเรียนไวโอลิน ตามความต้องการของแม่ของเขาที่ยืนยันให้เขาได้เรียน
อายุได้ห้าขวบ พ่อของเขานำเข็มทิศพกพามาให้เล่น และทำให้ไอน์สไตน์รู้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างในพื้นที่ที่ว่างเปล่า ซึ่งส่งแรงผลักเข็มทิศให้เปลี่ยนทิศไป เขาได้อธิบายในภายหลังว่าประสบการณ์เหล่านี้คือหนึ่งในส่วนที่เป็นแรงบันดาลใจให้แก่เขาในชีวิต แม้ว่าเขาชอบที่จะสร้างแบบจำลองและอุปกรณ์กลได้ในเวลาว่าง เขาถือเป็นผู้ที่เรียนรู้ได้ช้า สาเหตุอาจเกิดจากการที่เขามีความพิการทางการอ่านหรือเขียน (dyslexia) ความเขินอายซึ่งพบได้ทั่วไป หรือการที่เขามีโครงสร้างสมองที่ไม่ปกติและหาได้ยากมาก (จากการชันสูตรสมองของเขาหลังจากที่ไอน์สไตน์เสียชีวิต)

ไอน์สไตน์เริ่มเรียนคณิตศาสตร์เมื่อประมาณอายุ 12 ปี โดยที่ลุงของเขาทั้งสองคนเป็นผู้อุปถัมภ์ความสนใจเชิงปัญญาของเขาในช่วงย่างเข้าวัยรุ่นและวัยรุ่น โดยการแนะนำและให้ยืมหนังสือซึ่งเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์

ใน พ.ศ.2437 เนื่องมาจากความล้มเหลวในธุรกิจเคมีไฟฟ้าของพ่อของเขา ทำให้ครอบครัวไอน์สไตน์ย้ายจากเมืองมิวนิค ไปยังเมืองพาเวีย (ใกล้กับเมืองมิลาน) ประเทศอิตาลี ในปีเดียวกัน เขาได้เขียนผลงานทางวิทยาศาสตร์ชิ้นหนึ่งขึ้นมา (คือ “การศึกษาสถานะของอีเธอร์ในสนามแม่เหล็ก”) โดยที่ไอน์สไตน์ยังอาศัยอยู่ในบ้านพักในมิวนิคอยู่จนเรียนจบจากโรงเรียน โดยเรียนเสร็จไปแค่ภาคเรียนเดียวก่อนจะลาออกจากโรงเรียนมัธยมศึกษา กลางฤดูใบไม้ผลิ ในปี พ.ศ.2438 หมายถึงเขาจะไม่ได้รับใบรับรองการศึกษาชั้นเรียนมัธยม แม้ว่าเขาจะมีความสามารถชั้นเลิศในสาขาวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ แต่การที่เขาไร้ความรู้ใดๆ ทางด้านศิลปศาสตร์ ทำให้เขาไม่ผ่านการสอบคัดเลือกเข้าสถาบันเทคโนโลยีแห่งสมาพันธรัฐสวิสในเมืองซูริค เขาสำเร็จการศึกษาและได้รับใบอนุปริญญาในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2439 และสอบเข้า ETH ได้ในเดือนตุลาคม ในปีเดียวกันเขากลับมาที่บ้านเกิดเพิกถอนภาวะการเป็นพลเมืองของเขาในเวอร์เทมบูรก์ ทำให้เขากลายเป็นผู้ไร้สัญชาติ

ใน พ.ศ.2443 เขาได้รับประกาศนียบัตรสำเร็จการศึกษาจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งสมาพันธรัฐสวิส และได้รับสิทธิ์พลเมืองสวิสในปี พ.ศ.2444

เขาได้งานทำที่สำนักงานสิทธิบัตรในกรุงเบิร์น หน้าที่ตรวจประเมินใบสมัครของสิทธิบัตรในหมวดหมู่อุปกรณ์แม่เหล็กไฟฟ้า บรรจุเข้าเป็นพนักงานประจำ หลังจากถูกมองข้ามมานานจนกระทั่งกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีจักรกล

ตลอดช่วงเวลาเหล่านี้ ไอน์สไตน์แทบจะไม่ได้เข้าไปข้องเกี่ยวใดๆ ทางฟิสิกส์เลย งานที่สำนักงานจะเกี่ยวกับปัญหาเรื่องการส่งสัญญาณไฟฟ้าและการซิงโครไนซ์ทางเวลาระหว่างระบบไฟฟ้ากับระบบทางกล เป็นจุดสนใจของการทดลองนำให้ไอน์สไตน์ไปสู่ผลสรุปอันลึกซึ้งเกี่ยวกับธรรมชาติของแสงและความเกี่ยวพันระหว่างอวกาศกับเวลา

ในเวลานั้นใน Annalen der Physik ซึ่งเป็นวารสารทางฟิสิกส์ชั้นนำของเยอรมันตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับธรรมชาติเฉพาะตัวของแสง นำไปสู่แนวคิดที่ส่งผลต่อการทดลองที่มีชื่อเสียง คือปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก และบทความเกี่ยวกับอิเล็กโตรไดนามิกส์ของวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่เป็นกำเนิดของ “ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ” ผลสืบเนื่องจากแนวคิดนี้รวมถึงกรอบของกาล-อวกาศของวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่จะช้าลงและหดสั้นลง (ตามทิศทางของการเคลื่อนที่)

ไอน์สไตน์ปรับปรุงสมการสัมพัทธภาพพิเศษของเขาจนกลายมาเป็นสมการอันโด่งดังที่สุดแห่งคริสต์ศตวรรษที่ 20 คือ E = mc2 ซึ่งบอกว่า มวลขนาดเล็กจิ๋วสามารถแปลงไปเป็นพลังงานปริมาณมหาศาลได้ ซึ่งเป็นจุดกำเนิดการพัฒนาของพลังงานนิวเคลียร์

ปี พ.ศ. 2449 สำนักงานสิทธิบัตรเลื่อนขั้นให้ไอน์สไตน์เป็น Technical Examiner Second Class แต่เขาก็ยังไม่ทิ้งงานด้านวิชาการ ปี พ.ศ.2451 เขาได้เข้าเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเบิร์น พ.ศ.2453 เขาเขียนบทความอธิบายถึงผลสะสมของแสงที่กระจายตัวโดยโมเลกุลเดี่ยวๆ ในบรรยากาศ ซึ่งเป็นการอธิบายว่า เหตุใดท้องฟ้าจึงเป็นสีน้ำเงิน

ระหว่าง พ.ศ.2452 ไอน์สไตน์ตีพิมพ์บทความ พัฒนาการของมุมมองเกี่ยวกับองค์ประกอบและหัวใจสำคัญของการแผ่รังสี ว่าด้วยการพิจารณาแสงในเชิงปริมาณ ไอน์สไตน์ได้แสดงว่า พลังงานควอนตัมของมักซ์ พลังค์ จะต้องมีโมเมนตัมที่แน่นอนและแสดงตัวในลักษณะที่คล้ายคลึงกับอนุภาคที่เป็นจุด บทความนี้ได้พูดถึงแนวคิดเริ่มต้นเกี่ยวกับโฟตอน และให้แรงบันดาลใจเกี่ยวกับความเกี่ยวพันกันระหว่างคลื่นกับอนุภาค ในวิชากลศาสตร์ควอนตัม

พ.ศ.2454 ไอน์สไตน์ได้เป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยซูริค ที่มหาวิทยาลัยชาร์ลส์-เฟอร์ดินานด์ ของเยอรมันที่ตั้งอยู่ในกรุงปราก ที่นี่ไอน์สไตน์ได้ตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับผลกระทบของแรงโน้มถ่วงที่มีต่อแสง ช่วยแนะแนวทางแก่นักดาราศาสตร์ในการตรวจสอบการหักเหของแสงระหว่างการเกิดสุริยคราส ไปยังนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก

พ.ศ.2455 ไอน์สไตน์กลับมายังสวิตเซอร์แลนด์ เขาได้พบกับนักคณิตศาสตร์ มาร์เซล กรอสมานน์ ซึ่งช่วยให้เขารู้จักกับเรขาคณิตของรีมานน์และเรขาคณิตเชิงอนุพันธ์ จึงได้เริ่มใช้ประโยชน์จากความแปรปรวนร่วมเข้ามาประยุกต์ในทฤษฎีแรงโน้มถ่วงของเขา ในปลายปี พ.ศ.2458 ไอน์สไตน์จึงได้เผยแพร่ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปซึ่งยังคงใช้อยู่ตราบถึงปัจจุบัน ทฤษฎีนี้อธิบายถึงแรงโน้มถ่วงว่าเป็นการบิดเบี้ยวของโครงสร้างกาลอวกาศโดยวัตถุที่ส่งผลเป็นแรงเฉื่อยต่อวัตถุอื่น

งานวิจัยของไอน์สไตน์หลังจากทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปมีหัวใจหลักอยู่ที่การพยายามทำให้ทฤษฎีแรงโน้มถ่วง สามารถอธิบายคุณสมบัติของแม่เหล็กไฟฟ้าได้ ปี พ.ศ.2493 เขาได้พูดถึงแนวคิดเรื่อง “ทฤษฎีแรงเอกภาพ” ในความพยายามของไอน์สไตน์ที่จะรวมแรงพื้นฐานทั้งหมดเข้าในกฎเดียวกัน เขาได้ละเลยการพัฒนากระแสหลักในทางฟิสิกส์ไปบางส่วน ที่สำคัญคือแรงนิวเคลียร์อย่างเข้มและแรงนิวเคลียร์อย่างอ่อน ซึ่งไม่มีใครเข้าใจมากนัก ขณะเดียวกันแนวทางพัฒนาฟิสิกส์กระแสหลักเองก็ละเลยแนวคิดของไอน์สไตน์เกี่ยวกับการรวมแรงเช่นเดียวกัน ครั้นต่อมาความฝันของไอน์สไตน์ในการรวมกฎฟิสิกส์ทั้งหลายเกี่ยวกับแรงโน้มถ่วงจึงเป็นแรงบันดาลใจสำคัญต่อแนวทางศึกษาฟิสิกส์ยุคใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อทฤษฎีแห่งสรรพสิ่งและทฤษฎีสตริง ขณะที่มีความตื่นตัวมากขึ้นในสาขากลศาสตร์ควอนตัมด้วย

ราวคริสต์ทศวรรษ 1920 มีการพัฒนากลศาสตร์ควอนตัมให้เป็นทฤษฎีที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ไอน์สไตน์ไม่ค่อยเห็นด้วยนักกับการตีความโคเปนเฮเกนว่าด้วยทฤษฎีควอนตัม ซึ่งพัฒนาขึ้นโดย นีลส์ บอร์ กับ แวร์เนอร์ ไฮเซนแบร์ก ซึ่งอธิบายปรากฏการณ์ทางควอนตัมว่าเป็นเรื่องของความน่าจะเป็น ที่จะส่งผลต่อเพียงอันตรกิริยาในระบบแบบดั้งเดิม มีการโต้วาทีสาธารณะระหว่างไอน์สไตน์กับบอร์สืบต่อมาเป็นเวลายาวนานหลายปี

ไอน์สไตน์ไม่เคยพอใจกับสิ่งที่เขาได้รับรู้เกี่ยวกับการอธิบายถึงธรรมชาติที่ไม่สมบูรณ์ในทฤษฎีควอนตัม ในปี พ.ศ.2478 เขาค้นคว้าเพิ่มเติมในประเด็นเหล่านี้ร่วมกับเพื่อนร่วมงานอีก 2 คน คือ บอริส โพโดลสกี และ นาธาน โรเซน และตั้งข้อสังเกตว่า ทฤษฎีดังกล่าวดูจะต้องอาศัยอันตรกิริยาแบบไม่แบ่งแยกถิ่น

สิ่งที่ไอน์สไตน์ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของบอร์เกี่ยวพันกับแนวคิดพื้นฐานในการพรรณนาถึงวิทยาศาสตร์ ด้วยเหตุนี้การโต้วาทีระหว่างไอน์สไตน์กับบอร์จึงได้ส่งผลสืบเนื่องออกไปเป็นการวิวาทะในเชิงปรัชญาด้วย

พ.ศ.2465 ไอน์สไตน์ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ประจำปี 2464 ในฐานะที่ “ได้อุทิศตนแก่ฟิสิกส์ทฤษฎี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้นพบกฎที่อธิบายปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก” ซึ่งเป็นการอ้างอิงถึงงานเขียนของเขาในปี 2448 “โดยใช้มุมมองจากจิตสำนึกเกี่ยวกับการเกิดและการแปรรูปของแสง” แนวคิดของเขาได้รับการพิสูจน์อย่างหนักแน่นจากผลการทดลองมากมายในยุคนั้น…

เชื่อกันมานานว่าไอน์สไตน์มอบเงินรางวัลจากโนเบลทั้งหมดให้แก่ภรรยาคนแรก คือมิเลวา มาริค สำหรับการหย่าขาดจากกันในปี พ.ศ.2462 แต่จดหมายส่วนตัวที่เพิ่งเปิดเผยขึ้นในปี พ.ศ.2549 บ่งบอกว่าเขานำไปลงทุนในประเทศสหรัฐอเมริกา และสูญเงินไปเกือบหมดจากเหตุการณ์เศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่…เขาไม่ใช่อัจฉริยะทางธุรกิจ ไอน์สไตน์เดินทางไปนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เป็นครั้งแรก เมื่อ 2 เมษายน พ.ศ.2464

4230
สุดยอดเลย น้องเปิล...ป่านนี้ยังไม่หาเบอร์ น้องเปิลเจอเลย...อิอิ    ....เอานะขอให้ท่านที่กำลังถอดรูทกันอยู่...ถอดให้ดีละอย่าไปถอด ..รูดซิปน้องเปิลละกัน   อิอิ(บอกรุ่น คาสิโอมาเลย  น้องจ๋า   อิอิ)  จบข่าว :D :D :D :D
<a href="http://www.youtube.com/v/nEqPJDPc48g" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/nEqPJDPc48g</a>

หน้า: 1 ... 280 281 [282] 283 284 ... 405