ผู้เขียน หัวข้อ: ปิดไฟมองฟ้า  (อ่าน 3840 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ adulmr

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 772
  • มงกุฎ: 1
    • ดูรายละเอียด
ปิดไฟมองฟ้า
« เมื่อ: มิถุนายน 23, 2013, 11:00:21 AM »
ผมได้อ่านเจอในหนังสือแนวอนุรักษ์เล่มหนึ่ง
"ต้นไม้ใต้โลก" โดย ทรงกลด บางยี่ขัน
เอาเรื่องราวต่างๆของทั่วโลกมาเล่า
มีเรื่องหนึ่งที่จะมาเล่าต่อ
เขาบอกว่า

มีนักดาราศาสตร์ชาวเช็ก ชื่อ เจนิค ฮอลแลนด์
บอกว่าคนเราเดี๋ยวนี้ ตามถนนหนทางเปิดไฟเสียสว่างจ้าเกินเหตุ
แกได้ออกมาเรียกร้องปกป้องความมืดของท้องฟ้ายามค่ำคืน
เขาว่ามลภาวะทางแสงช่วงกลางคืน ทำให้มนุษย์เราไม่สามารถผลิตฮอร์โมนเมลาโทนิน
ส่งผลให้เรามีปัญหาทางสายตา นอนไม่หลับ ทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย

พี่แกยังบอกอีกว่าการลดแสงสว่าง จะทำให้ท้องฟ้ามืดลง ส่งผลให้เราสามารถเห็นดวงดาวหรือดวงจันทร์ได้ดีขึ้น
(คู่รักที่เพิ่งจีบกัน น่าจะชอบไอเดียนี้)
นายฮอลแลนด์แกรณรงค์เรื่องนี้อยู่พักใหญ่ๆ
ในที่สุดก็ได้ผล

ออฟไลน์ adulmr

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 772
  • มงกุฎ: 1
    • ดูรายละเอียด
Re: ปิดไฟมองฟ้า
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2013, 11:18:24 AM »
สาธารณรัฐเช็ก จึงได้ออกกฎหมายเพื่อควบคุมมลภาวะทางแสง เมื่อปี 2545
กฎหมายนี้ระบุถึงเรื่องของหลอดไฟตามถนนหรือที่ไหนๆ จะต้องมีลักษณะส่องลงบนพื้นเท่านั้น ไม่ให้แสงฟุ้งกระจาย
จำกัดในเรื่องหลอดไฟป้ายโฆษณา ฯลฯ
ใครฝ่าฝืนมีโทษปรับ 210,000 บาท
พอใช้กฎหมายนี้แล้ว พบว่าท้องฟ้าสดใสพร่างพราวด้วยแสงดาว มากกว่าเดิมเยอะ
และพบว่าในบางท้องถิ่นของประเทศสเปน และอิตาลี
ลอกเอากฎหมายนี้ไปใช้บ้างแล้ว

ออฟไลน์ adulmr

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 772
  • มงกุฎ: 1
    • ดูรายละเอียด
Re: ปิดไฟมองฟ้า
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2013, 11:18:42 AM »
เข้าท่านะครับ
ผมเองเห็นว่าปัจจุบันนี้ ไม่เฉพาะในกรุงเทพฯ หรอก
แม้แต่ต่างจังหวัดไกลโพ้น ช่วงกลางคืนน่ะ มันตะบันกันเปิดไฟกันมากมายจริงๆ
นอกจากไม่เป็นการประหยัดแล้ว ผมว่ามันสว่างเกินไป
ยกตัวอย่างไฟตามถนนหลวง บางช่วงน่ะมีไฟกลางถนนทุกๆระยะ 20-25 เมตร
มันจะสว่างไปไหนไม่ทราบ

หรือในเขตเทศบาลบางแห่ง
มันปักเสาไปกลางถนนทุกระยะ 15 เมตร เพื่อห้อยหลอดไฟแสงจันทร์เสาละ 2 หลอด (หลอดนึงก็หลายพันวัตต์)
เปิดไฟเสียสว่างโร่ยังกับจัดงานศพแม่ยายของมัน
ทั้งๆที่ในภาวะปกติ แสงไฟจากร้านค้าบ้านเรือนสองข้างทาง ก็ส่องสว่างล้ำเข้ามาในเขตถนนจนนับเม็ดสิวกันได้ชัดอยู่แล้ว
ประเทศเรา มันน่าจะมีกฎหมายจำกัดแสงสว่างแบบนี้มาใช้บ้างก็ดีนะครับ
ผมเองไม่ได้คัดค้านการติดหลอดไฟแสงสว่างในที่เปลี่ยว เพื่อความปลอดภัย
แต่ในสถานที่ซึ่งคนพลุกพล่านจนโจรไม่น่าจะฉุดใครไปข่มขืนได้
ผมคิดว่าลดๆจำนวนหลอดไฟลงบ้าง ก็น่าจะดีนะครับ
ขอบคุณครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 23, 2013, 11:20:35 AM โดย adulmr »

ออฟไลน์ อินทะเนียร์น้อย

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6114
  • มงกุฎ: 3
    • ดูรายละเอียด
Re: ปิดไฟมองฟ้า
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มิถุนายน 24, 2013, 08:14:45 AM »
ขอขอบคุณ ท่าน อดุลย์ ในบทความเรื่องแสงสว่าง...อ่านแล้วปลื้มกับคนในประเทศเ๙็ก  จริงๆครับ....เชื่อในสิ่งที่ควรเชื่อ และทำตามเพื่อความถูกต้องของการดำรงค์ชีวิตของคนในสังคมนั้น....หวนกลับมาดูสังคมที่เราอยู่มั่ง...เศร้าใจ..กับตัวเองและคนในสังคมนี้จริง...ไม่ใช่ว่าสังคมนี้ไม่มีคนเก่งนะครับ...มีจนมีโล่ห์ กันล้นประเทศแล้ว..แต่ยังมี ชีวิตบัดซบ...เหมือนเดิม...ขับรถไปซื้อของในห้าง ออกมา เจอจี้ ด้วย มีดราคา180บาท...จี้ไม่พอบอกเผลอไปไม่เจตนาฆ่า..เฮ้อ...จะตายคามคนที่มันจี้มั๊ยนี่..เพราะเชื่อว่า..ถ้าอยู่ไปอีกน่าจะทำอีกเพราะมีประสพการณ์ และได้รับ ใบเซอร์ จากเพื่อนร่วมสถาบันที่เข้าไปฝึก อย่างน้อย อาจซัก20.ปี ออกมา อายุก็ราวๆ  50...กำลังเวิร์คเพราะไปทำงานอื่นไม่มีใครรับแล้ว...แก่ก็แก่ ใบเซอร์นี้หางานยาก   อิอิ
..ส่วนเรื่อง...ไฟถนนนี่...อย่างที่ท่านบอกมาครับ..เคยเห็น อบต แถวชานเมือง กทม นี่แหละ..นายกเล็ก น่าจะพวกคลั่ง สนามฟุตบอล...เฮ้อ(งบเยอะ..งาบยาว)....เพราะจะมีพวกที่ทำอะไรประหลาดๆอยู่เสมอ..เช่น ทำป้าย สำนักงานฯใหญ่ที่สุดในโลก..เสาธงสูงที่สุดในโลก....ธงผืนใหญ่ที่สุดในโลก....แต่ไม่กล้วเมีย(กิ๊ก)ที่สุดในโลก ไม่ปรากฏว่ามีรายงาน  จร้าาาา อิอิ  ...บางที่มีเสาไฟแต่ไม่เปิดไฟครับ ท่าน อดุลย์...แถมเขียนป้ายบอกว่า...สายไฟถูกขโมย   ...ว้าว...(ใครถาม  ?) ..ภาษีรถยนต์ต่อทุกปีนะจ๊ะ...ชนคนตายเพราะทางมืด..บาปติดตัวตลอดชีวิต..คนปิดไฟด้วย        จบข่าว :D :D :D :D :D :D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 24, 2013, 08:19:18 AM โดย อินทะเนียร์น้อย »