เสน่ห์ปลายจวัก สมัยนี้ก็ยังใช้ได้อยู่นะคะ เพียงแต่สภาพแวดล้อมของสังคมเมือง ทำให้แม่บ้านมือใหม่มือเก่า ต้องอาศัยปลายจวักของแม่ค้าแทน เพราะกว่าจะเลิกงานแล้วฝ่าดงกองทัพรถ ลงเรือ ขึ้นรถเมล์ ต่อรถไฟฟ้า ถึงบ้านก็ดึกแล้ว มัวแต่มานั่งตำน้ำพริก มีหวังพ่อบ้านกลับมา โมโหหิวอีกค่ะ อีกทั้งที่อยู่อาศัยก็ห้ามทำครัว ห้ามส่งกลิ่น ห้ามส่งเสียงรบกวน ห้ามตากผ้า??? แล้วคิดดูสิคะ ที่อยู่อาศัยแบบกล่องๆอยู่รวมกัน มีตั้งกี่ครัวเรือน ส่วนที่เป็นคนมีกะตังหน่อย มีกำลังจ้างแจ๋ว ก็อาศัยปลายจวักแจ๋วแทน
เพราะสภาพแวดล้อม ร้านอาหารในเมืองกรุงจึงผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ทั้งฟาดฟูด จั๊งฟูด บุฟเฟ่ .....เยอะ แต่คนก็ยังขาดความอร่อยไม่ได้ค่ะ ยังแสวงหาความอร่อย ร้านนั้นอร่อย ร้านนู้นอร่อย เป็นเยี่ยงนี้เอง
สรุปแว่ เสน่ห์ปลายจวักยังใช้การได้เสมอ ขอให้เพียงมีเวลามากขึ้น แล้วคนที่ทำอาหารที่มีรสอันโอชะนั้น เป็นที่รักของเราเอง มันจะช่วยเสริมสัมพันธไมตรีอันดีต่อกัน... แล้วอย่าลืมล้างจานด้วยนะ....ที่รัก