5041
ห้องสภากาแฟและอื่นๆ / Re: คอร์รัปชั่นจะหมดไปจากประเทศ...???
« เมื่อ: มิถุนายน 17, 2013, 08:03:15 AM »
มาดูข่าวนี้ จาก นสพ แนวหน้า กันมั่ง เป็นปลื้ม ที่คนไทยของเรา ไปสร้างชื่อเสียง ในเกาะเเห่งนี้ ไม่แพ้ชาติใดในโลกนี้ เหมือนกัน...น่าจะมอบโล่ห์ให้นะครับ ..
...บอกเเล้วไงครับ..ว่า ทำอะไรที่ มันถูกช่อง นี่ มัน รวยในพริบตา เลยทีเดียว ในทุกสังคมด้วย...แต่บางคนทำอะไรๆๆๆๆตั้งหลายอย่าง ก็ไม่รวย ...แถมดันมีคนมาแนะนำไป แก้กรรม กับ พระ มั่ง ชีมั่ง...กลับมาเหลืแเเต กางเกงห้อยตูx...(กำลังฮิต ในเมกา และ บางรัฐสั่งห้ามแล้ว อิอิ)...กลายเป็น ว่า เอาความรวยไปให้ พระ ให้ชีแทน...อิอิ..มีรถหรู อะไม่จดประกอบด้วย..บางที่มีเครื่องบินเจตส่วนตัว ลูกศิษย์ ถวาย อะ ว้าว...
..เอางี้ลองสังเกตุกันง่ายๆนะครับ...กลุ่มพวกที่ทำของมาขายในเเนว สื่อหรือ การเเสดงนี่...ลงทุนน้อยแต่ได้กำไรมหาศาล..อาทิ การร้องเพลง บางคน ดังเพลงเดียวแหละ..หากินยาว ก็เพลงเดียวที่ดัง อะ ..เเต่ว่ามันก็จะมีระยะเวลาแห่งการเบื่อเป็นธรรมดา...บางคนก็ออกมาอีก ดังอีก ..แต่บางคนออกมาอีก ..ก็ไปไกลๆเลย...ยิ่งตอนนี้ เทคโนโลยี มันทันสมัย ..ผลิตออกมาเป็น ล้านๆ ก็อบปี ..รวยในพริบตา...รายการแสดงก็เช่นกัน..เมื่อก่อน คนที่จะเเสดงได้ ต้องเรียน ต้องปฏิบัติตามกฏมีมารยาทในการแสดงต่อผู้ชม ทั้ง การพูดและ ท่าทางการแสดง..ทั้งหล่อ สวย.....เเต่เดี๋ยวนี้ ..เห็นแล้วจะอ้วกแตก..บางคนหน้าตายั่งกะปลากะโห้ ขึ้นบก..ยังมาเป็นพิธีกร แถม ตะโกนโวกเหวก โวยวาย อีก เฮ้อ(เกิดแถวไหนนี่ กลุ้ม)..เป็น ตย ที่ีไม่ดีกับ เยวชน ในสังคม..แต่ก็ได้การยอมรับใน บางกลุ่ม..เฮ้อ เศร้า เเยกเเยะกันหน่อยสิจ๊ะ...ไปช่วยมันรวยอีก.. สม ..แต่ถ้าคนที่มีพรสวรรค์ในการเป็น ศิลปินเราต้องยอมรับเขาจริงๆนะครับ...อันนี้สุดยอด...ดูกันเอาเองครับ แต่ว่า อันไหนที่มันทำร้ายเยวชนไทย ควรกำจัดครับ เพราะมันคือ มะเร็งร้ายของสังคมไทย (โจรเด็กเริ่มมีเยอะขึ้น กลุ้มจริงๆ) จบข่าว
16 มิ.ย.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่ายผู้สื่อข่าวสืบสวนนานาชาติ (The International Consortium of Investigtive Journalists: ICIJ) ตั้งอยู่ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกาประกาศเปิดข้อมูลการถือครองบริษัทนอกอาณาเขต (offshore company) ครั้งใหญ่ ผ่านทางเว็บเพจ http://offshoreleaks.icij.org ข้อมูลดังกล่าวมาจากฐานข้อมูลของบริษัทให้บริการจัดตั้งบริษัทนอกอาญาเขตรายใหญ่สองบริษัท คือบริษัทพอร์ตคูลิส ทรัสต์เน็ต (Portculis TrustNet) ตั้งอยู่ที่สิงคโปร์ กับบริษัทคอมมอนเวลธ์ ทรัสต์ ลิมิดเต็ท (Commonwealth Trust Limited) ตั้งอยู่ที่เกาะบริติช เวอร์จิ้น
ข้อมูลดังกล่าว ประกอบไปด้วยชื่อผู้ใช้บริการบริษัทนอกอาณาเขต, ทรัสต์ และบัญชีธนาคารแบบปิดลับกว่า 100,000 ชื่อ รวมทั้งรายชื่อผู้เกี่ยวข้องจากทุกประเทศทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย โดยบริษัทนอกอาณาเขตเหล่านี้ตั้งอยู่พื้นที่พิเศษต่างๆรวมทั้งหมู่กาะ บริติช เวอร์จิ้น, หมู่เกาะ เคแมน, หมู่เกาะคุก และประเทศสิงคโปร์ เป็นต้น ในกรณีของประเทศไทยซึ่งมีบุคคลและบริษัทรวมแล้วว่า 600 รายในฐานข้อมูล ผู้อ่านสามารถค้นรายชื่อทั้งหมดได้ในเว็บเพจ เช่นกัน
นอกจากนี้ในเว็บเพจซึ่งสร้างขึ้นโดยหนังสือพิมพ์ La Nación ในคอสตาริก้า ซึ่งมีผู้สื่อข่าวเป็นสมาชิก ICIJ มีข้อมูลชื่อบริษัทนอกอาณาเขตและผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงผู้ถือหุ้นและผู้อำนวยการบริษัท รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องอื่นๆเช่นทนายความ, ผู้ทำบัญชี และ ธนาคารที่ให้บริการ โดยมีใช้อินโฟกราฟฟิกแสดงความเชื่อมโยงของบุคคลและบริษัทเหล่านั้น
เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ICIJ ตรวจสอบและรายงานการถือครองบริษัทนอกอาณาเขตของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง, นักธุรกิจใหญ่ และบุคคลผู้มีชื่อเสียงบางรายที่พบในฐานข้อมูล เช่น นางนลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย, คุณหญิง พจมาน ณ ป้อมเพชร, นาย บรรณพจน์ ดามาพงศ์, สมาชิกตระกูลจิราธิวัฒน์และตระว่องกุศลกิจ รวมทั้งนักร้องชื่อดัง “แอ๊ด คาราบาว” โดยการรายงานข่าวครั้งนั้นเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระหว่าง ICIJ กับสื่อมวลชนกว่า 40 องค์กรทั่วโลก
สำหรับรายชื่อในประเทศไทยที่ปรากฏในเว็บเพจ <http://offshoreleaks.icij.org> ครั้งนี้ ประกอบด้วยบุคคลหลากหลายอาชีพ รวมถึงสมาชิกในตระกูลธุรกิจขนาดใหญ่ของประเทศหลายตระกูล เช่น ตระกูลเจียรวนนท์, โชควัฒนา, กาญจนพาสน์, กรรณสูตร และศรีเฟื่องฟุ้ง เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีนักธุรกิจชื่อดังเช่น นายไพโรจน์ เปี่ยมพงษ์สานต์ ซึ่งจดทะเบียนเป็นผู้อำนวยการบริษัท มีนา เวิลด์ไวด์ อิ้งค์ (MENA Worldwide Inc.) ที่บริติช เวอร์จิ้น เมื่อ พ.ศ. 2552 และนายภูษณ ปรีย์มาโนช ที่พบว่ามีชื่อเป็นผู้อำนวยการและผู้ถือหุ้นร่วมของบริษัท ยูพีเอ ไมน์นิ่ง ลิมิดเต็ด (U P I Mining Limited) ใน พ.ศ. 2544 ที่บริติช เวอร์จิ้น เช่นเดียวกัน ส่วนกลุ่มอื่นๆมีบุคคลในแวดวงการเงินการธนาคาร, ทนายความ และเจ้าของบริษัทขนาดกลาง เป็นต้น
เมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา นาย เจอราด ไรย์ ผู้อำนายการ ICIJ กล่าว ถึงเหตุผลในการเปิดเผยข้อมูลครั้งนี้ว่า เพื่อให้เป็นประโยชน์สาธารณะด้วยการทำให้อุตสาหกรรมที่ดำเนินการอยู่ในเงามืดมาเป็นเวลานานกลายเป็นสิ่งที่สามารถตรวจสอบได้ เขาชี้ว่าการปิดลับ (เกี่ยวกับการดำเนินการของบริษัทนอกอาณาเขต) ได้สร้างบรรยากาศที่เอื้อให้ให้พฤติกรรมการคดโกง, การเลี่ยงภาษี และการฟอกเงิน รวมทั้งการโกงกินในรูปแบบต่างๆแผ่ขยายมากขึ้น การเปิดเผยข้อมูลในครั้งนี้ถือเป็นการทำลายการปิดลับที่ว่านี้ไปเสีย
อย่างไรก็ตาม เอกสารแถลงข่าวของ ICIJ ชี้ว่า การถือครองบริษัทนอกอาณาเขตเป็นสิ่งที่สามารถทำได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายและการเปิดเผยข้อมูลในครั้งนี้ ICIJ ไม่มีเจตนาที่จะกล่าวหาผู้ใดว่ากระทำการอันไม่เหมาะสม ข้อมูลที่นำมาเปิดเผยได้ผ่านการกลั่นกรองอย่างระมัดระวังโดยมีเฉพาะข้อมูลพื้นฐานที่สำคัญ ในขณะเดียวกันไม่มีการระบุรายละเอียดส่วนตัวบางอย่างเช่นข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีธนาคาร, การทำธุรกรรมทางการเงิน, การติดต่อสื่อสารทางอินเตอร์เน็ตและช่องทางอื่น รวมทั้งหมายเลขหนังสือเดินทางและหมายเลขโทรศัพท์ เป็นต้น
การรายงานข่าวโดย ICIJ กับสื่อมวลชนต่างๆในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา สร้างผลกระทบให้เกิดขึ้นในหลายประเทศ เช่น ส่งผลให้รองประธานสภามองโกเลียและนายธนาคารผู้มีอิทธิพลของออสเตรียซึ่งมีชื่อเป็นผู้ถือครองบริษัทนอกอาณาเขตต้องลาออกจากตำแหน่ง นอกจากนั้นยังนำไปสู่การสอบสวนอย่างเป็นทางการกรณีเลี่ยงภาษีของบุคคลที่ปรากฏชื่อในฐานของมูลใน ประเทศฟิลิปปินส์, อินเดีย, กรีซ และเกาหลีใต้
ขณะเดียวกันกลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปหลายประเทศเริ่มปรับเปลี่ยนมาตรการควบคุมการเลี่ยงภาษี เช่น รัฐบาลอังกฤษ, สเปน, ฝรั่งเศส, อิตาลี และเยอรมัน ได้ประกาศว่าจะเริ่มแลกเปลี่ยนข้อมูลธนาคารระหว่างกัน การเปิดข้อมูลของ ICIJ ครั้งนี้เกิดขึ้นก่อนการประชุมกลุ่มประเทศ G8 ที่ไอร์แลนด์เหนือในสัปดาห์นี้ ซึ่งมีนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษเป็นประธาน ได้ระบุวาระเรื่องปัญหาการเลี่ยงภาษีเป็นวาระสำคัญหนึ่งของการประชุม
ที่มา : สำนักข่าวอิศรา
...บอกเเล้วไงครับ..ว่า ทำอะไรที่ มันถูกช่อง นี่ มัน รวยในพริบตา เลยทีเดียว ในทุกสังคมด้วย...แต่บางคนทำอะไรๆๆๆๆตั้งหลายอย่าง ก็ไม่รวย ...แถมดันมีคนมาแนะนำไป แก้กรรม กับ พระ มั่ง ชีมั่ง...กลับมาเหลืแเเต กางเกงห้อยตูx...(กำลังฮิต ในเมกา และ บางรัฐสั่งห้ามแล้ว อิอิ)...กลายเป็น ว่า เอาความรวยไปให้ พระ ให้ชีแทน...อิอิ..มีรถหรู อะไม่จดประกอบด้วย..บางที่มีเครื่องบินเจตส่วนตัว ลูกศิษย์ ถวาย อะ ว้าว...
..เอางี้ลองสังเกตุกันง่ายๆนะครับ...กลุ่มพวกที่ทำของมาขายในเเนว สื่อหรือ การเเสดงนี่...ลงทุนน้อยแต่ได้กำไรมหาศาล..อาทิ การร้องเพลง บางคน ดังเพลงเดียวแหละ..หากินยาว ก็เพลงเดียวที่ดัง อะ ..เเต่ว่ามันก็จะมีระยะเวลาแห่งการเบื่อเป็นธรรมดา...บางคนก็ออกมาอีก ดังอีก ..แต่บางคนออกมาอีก ..ก็ไปไกลๆเลย...ยิ่งตอนนี้ เทคโนโลยี มันทันสมัย ..ผลิตออกมาเป็น ล้านๆ ก็อบปี ..รวยในพริบตา...รายการแสดงก็เช่นกัน..เมื่อก่อน คนที่จะเเสดงได้ ต้องเรียน ต้องปฏิบัติตามกฏมีมารยาทในการแสดงต่อผู้ชม ทั้ง การพูดและ ท่าทางการแสดง..ทั้งหล่อ สวย.....เเต่เดี๋ยวนี้ ..เห็นแล้วจะอ้วกแตก..บางคนหน้าตายั่งกะปลากะโห้ ขึ้นบก..ยังมาเป็นพิธีกร แถม ตะโกนโวกเหวก โวยวาย อีก เฮ้อ(เกิดแถวไหนนี่ กลุ้ม)..เป็น ตย ที่ีไม่ดีกับ เยวชน ในสังคม..แต่ก็ได้การยอมรับใน บางกลุ่ม..เฮ้อ เศร้า เเยกเเยะกันหน่อยสิจ๊ะ...ไปช่วยมันรวยอีก.. สม ..แต่ถ้าคนที่มีพรสวรรค์ในการเป็น ศิลปินเราต้องยอมรับเขาจริงๆนะครับ...อันนี้สุดยอด...ดูกันเอาเองครับ แต่ว่า อันไหนที่มันทำร้ายเยวชนไทย ควรกำจัดครับ เพราะมันคือ มะเร็งร้ายของสังคมไทย (โจรเด็กเริ่มมีเยอะขึ้น กลุ้มจริงๆ) จบข่าว
16 มิ.ย.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่ายผู้สื่อข่าวสืบสวนนานาชาติ (The International Consortium of Investigtive Journalists: ICIJ) ตั้งอยู่ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกาประกาศเปิดข้อมูลการถือครองบริษัทนอกอาณาเขต (offshore company) ครั้งใหญ่ ผ่านทางเว็บเพจ http://offshoreleaks.icij.org ข้อมูลดังกล่าวมาจากฐานข้อมูลของบริษัทให้บริการจัดตั้งบริษัทนอกอาญาเขตรายใหญ่สองบริษัท คือบริษัทพอร์ตคูลิส ทรัสต์เน็ต (Portculis TrustNet) ตั้งอยู่ที่สิงคโปร์ กับบริษัทคอมมอนเวลธ์ ทรัสต์ ลิมิดเต็ท (Commonwealth Trust Limited) ตั้งอยู่ที่เกาะบริติช เวอร์จิ้น
ข้อมูลดังกล่าว ประกอบไปด้วยชื่อผู้ใช้บริการบริษัทนอกอาณาเขต, ทรัสต์ และบัญชีธนาคารแบบปิดลับกว่า 100,000 ชื่อ รวมทั้งรายชื่อผู้เกี่ยวข้องจากทุกประเทศทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย โดยบริษัทนอกอาณาเขตเหล่านี้ตั้งอยู่พื้นที่พิเศษต่างๆรวมทั้งหมู่กาะ บริติช เวอร์จิ้น, หมู่เกาะ เคแมน, หมู่เกาะคุก และประเทศสิงคโปร์ เป็นต้น ในกรณีของประเทศไทยซึ่งมีบุคคลและบริษัทรวมแล้วว่า 600 รายในฐานข้อมูล ผู้อ่านสามารถค้นรายชื่อทั้งหมดได้ในเว็บเพจ เช่นกัน
นอกจากนี้ในเว็บเพจซึ่งสร้างขึ้นโดยหนังสือพิมพ์ La Nación ในคอสตาริก้า ซึ่งมีผู้สื่อข่าวเป็นสมาชิก ICIJ มีข้อมูลชื่อบริษัทนอกอาณาเขตและผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงผู้ถือหุ้นและผู้อำนวยการบริษัท รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องอื่นๆเช่นทนายความ, ผู้ทำบัญชี และ ธนาคารที่ให้บริการ โดยมีใช้อินโฟกราฟฟิกแสดงความเชื่อมโยงของบุคคลและบริษัทเหล่านั้น
เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ICIJ ตรวจสอบและรายงานการถือครองบริษัทนอกอาณาเขตของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง, นักธุรกิจใหญ่ และบุคคลผู้มีชื่อเสียงบางรายที่พบในฐานข้อมูล เช่น นางนลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย, คุณหญิง พจมาน ณ ป้อมเพชร, นาย บรรณพจน์ ดามาพงศ์, สมาชิกตระกูลจิราธิวัฒน์และตระว่องกุศลกิจ รวมทั้งนักร้องชื่อดัง “แอ๊ด คาราบาว” โดยการรายงานข่าวครั้งนั้นเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระหว่าง ICIJ กับสื่อมวลชนกว่า 40 องค์กรทั่วโลก
สำหรับรายชื่อในประเทศไทยที่ปรากฏในเว็บเพจ <http://offshoreleaks.icij.org> ครั้งนี้ ประกอบด้วยบุคคลหลากหลายอาชีพ รวมถึงสมาชิกในตระกูลธุรกิจขนาดใหญ่ของประเทศหลายตระกูล เช่น ตระกูลเจียรวนนท์, โชควัฒนา, กาญจนพาสน์, กรรณสูตร และศรีเฟื่องฟุ้ง เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีนักธุรกิจชื่อดังเช่น นายไพโรจน์ เปี่ยมพงษ์สานต์ ซึ่งจดทะเบียนเป็นผู้อำนวยการบริษัท มีนา เวิลด์ไวด์ อิ้งค์ (MENA Worldwide Inc.) ที่บริติช เวอร์จิ้น เมื่อ พ.ศ. 2552 และนายภูษณ ปรีย์มาโนช ที่พบว่ามีชื่อเป็นผู้อำนวยการและผู้ถือหุ้นร่วมของบริษัท ยูพีเอ ไมน์นิ่ง ลิมิดเต็ด (U P I Mining Limited) ใน พ.ศ. 2544 ที่บริติช เวอร์จิ้น เช่นเดียวกัน ส่วนกลุ่มอื่นๆมีบุคคลในแวดวงการเงินการธนาคาร, ทนายความ และเจ้าของบริษัทขนาดกลาง เป็นต้น
เมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา นาย เจอราด ไรย์ ผู้อำนายการ ICIJ กล่าว ถึงเหตุผลในการเปิดเผยข้อมูลครั้งนี้ว่า เพื่อให้เป็นประโยชน์สาธารณะด้วยการทำให้อุตสาหกรรมที่ดำเนินการอยู่ในเงามืดมาเป็นเวลานานกลายเป็นสิ่งที่สามารถตรวจสอบได้ เขาชี้ว่าการปิดลับ (เกี่ยวกับการดำเนินการของบริษัทนอกอาณาเขต) ได้สร้างบรรยากาศที่เอื้อให้ให้พฤติกรรมการคดโกง, การเลี่ยงภาษี และการฟอกเงิน รวมทั้งการโกงกินในรูปแบบต่างๆแผ่ขยายมากขึ้น การเปิดเผยข้อมูลในครั้งนี้ถือเป็นการทำลายการปิดลับที่ว่านี้ไปเสีย
อย่างไรก็ตาม เอกสารแถลงข่าวของ ICIJ ชี้ว่า การถือครองบริษัทนอกอาณาเขตเป็นสิ่งที่สามารถทำได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายและการเปิดเผยข้อมูลในครั้งนี้ ICIJ ไม่มีเจตนาที่จะกล่าวหาผู้ใดว่ากระทำการอันไม่เหมาะสม ข้อมูลที่นำมาเปิดเผยได้ผ่านการกลั่นกรองอย่างระมัดระวังโดยมีเฉพาะข้อมูลพื้นฐานที่สำคัญ ในขณะเดียวกันไม่มีการระบุรายละเอียดส่วนตัวบางอย่างเช่นข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีธนาคาร, การทำธุรกรรมทางการเงิน, การติดต่อสื่อสารทางอินเตอร์เน็ตและช่องทางอื่น รวมทั้งหมายเลขหนังสือเดินทางและหมายเลขโทรศัพท์ เป็นต้น
การรายงานข่าวโดย ICIJ กับสื่อมวลชนต่างๆในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา สร้างผลกระทบให้เกิดขึ้นในหลายประเทศ เช่น ส่งผลให้รองประธานสภามองโกเลียและนายธนาคารผู้มีอิทธิพลของออสเตรียซึ่งมีชื่อเป็นผู้ถือครองบริษัทนอกอาณาเขตต้องลาออกจากตำแหน่ง นอกจากนั้นยังนำไปสู่การสอบสวนอย่างเป็นทางการกรณีเลี่ยงภาษีของบุคคลที่ปรากฏชื่อในฐานของมูลใน ประเทศฟิลิปปินส์, อินเดีย, กรีซ และเกาหลีใต้
ขณะเดียวกันกลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปหลายประเทศเริ่มปรับเปลี่ยนมาตรการควบคุมการเลี่ยงภาษี เช่น รัฐบาลอังกฤษ, สเปน, ฝรั่งเศส, อิตาลี และเยอรมัน ได้ประกาศว่าจะเริ่มแลกเปลี่ยนข้อมูลธนาคารระหว่างกัน การเปิดข้อมูลของ ICIJ ครั้งนี้เกิดขึ้นก่อนการประชุมกลุ่มประเทศ G8 ที่ไอร์แลนด์เหนือในสัปดาห์นี้ ซึ่งมีนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษเป็นประธาน ได้ระบุวาระเรื่องปัญหาการเลี่ยงภาษีเป็นวาระสำคัญหนึ่งของการประชุม
ที่มา : สำนักข่าวอิศรา