ผู้เขียน หัวข้อ: สิ่งประดิษฐ์ แห่งอนาคต  (อ่าน 232313 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 11 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ อินทะเนียร์น้อย

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6085
  • มงกุฎ: 3
    • ดูรายละเอียด
Re: สิ่งประดิษฐ์ แห่งอนาคต
« ตอบกลับ #45 เมื่อ: มีนาคม 02, 2014, 05:37:25 AM »
หลังวันหวยออก ....มาชมยี้ห้อดัง และเมื่อก่อนถ้าใครครอบครอง จะให้เเลดู สง่างามมากๆๆครับ  พี่น้อง ...เพราะผู้ทำบางประเทศ เห่อ เลย เอามั่ง  แต่เเพงมากเลยครับ  เรียกส่ง เมลตอบกับ ยี้ห้อโชว์ เเหล่งที่มาให้เห็นเป็น ปลื่มของผู้ได้รับ  ..ต่อมา ยี้ห้ออื่น เอามั่ง...เลียนแบบกันดีจริง คิดเองละไม่มี...ขอให้จบแค่นั้นแหละ...ยกเว้น อาม่า มีเอกลักษ์ ของตัวเอง  สุดยอด  อิอิ....แต่ยี้ แบลคฯนี่ ก็เจ้งไปพักหนึ่งเหมือนกันนะครับ...โธ่ พ่อคุณ  จะอยู่ยงกันได้ไง ขายแพงขนาดนั้น  ราวกับว่าขายมือยี้ห้อนี้ แล้วจะตาย..เฮ้อ...สม..มีgoophone  มาเป็นตัว ก็อป ซะให้หมด  ถูกและดี ใช้ ปีเดียวทิ้ง..คุ้ม...เพราะเทคโนโลยี  ชนิดนี้มันเปลี่ยนไวมาก ...ขึ้นอยู่กับการทำฮาร์ดแวร์ และโปรแกรม เท่านั้น มันไม่ยากเหมือนสร้างรถครับ..ดังนั้น ที่แพงๆมาละก้อ ไปไกลๆ  ไม่หนับหนุบ  วันนี้ นำคลิป แบลคฯมาให้ชม...ดูๆไปก็ขำนะครับ  มันจะทำให้คน วันๆไม่ทำอะไร  ให้มานั่งเล่นเครื่องแพงๆ  ของมัน  อยู่งั้นแหละ...ไม่ต้องทำมาหากินอะไรกันเลย...เฮ้อ   ...หนีไปอยู่ประเทศใหม่เลยดีกว่า ..ได้เห็นหมีด้วย...ว้าว    อิอิ    จบข่าว :D

<a href="http://www.youtube.com/v/gNGvJ-WdHaI&amp;list=PLSV1iA-lr7ykoKsJ3popveqDJkgtCoaB1" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/gNGvJ-WdHaI&amp;list=PLSV1iA-lr7ykoKsJ3popveqDJkgtCoaB1</a>

ออฟไลน์ อินทะเนียร์น้อย

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6085
  • มงกุฎ: 3
    • ดูรายละเอียด
Re: สิ่งประดิษฐ์ แห่งอนาคต
« ตอบกลับ #46 เมื่อ: มีนาคม 03, 2014, 04:29:13 AM »
ยังติดตาม มือถือ กันต่อครับ...ยังค้นพบยี้ห้อนี้ยี้ห้อเดียวครับ ที่มี สองจอ....เดี๋ยวพวกจอมลอกมันมาแน่ คิดช้าไปหน่อยนะจ๊ะ   อิอิ....ถ้าเเพงกว่า อาม่า  ก็ไปไกลๆละกัน....จะไปพึ่ง goophone  เลยขอบอก....มันจเเพงอะไรกันครับ ทำง่ายกว่ารถอีก...โปรแกรมก็ซื้อมาโหลดเเป๊ป ได้เเหละ เครื่องก็ทำแบบ คอมฯอะ...เครื่องทำมันทันสมัยมาก...ใช้หุ่นยนต์ หมดเลย...มีคนไว้คอย ใส่ห่อ และเมาต์แตกแบบคุณน้านี้ พอครับ  อิอิ  ..มาเลยyotaphone..ขอเชียร์สุดๆ  ในฐานะเป็นผู้คิดสองหน้าก่อนใคร...จบข่าว :D :D :D :D :D
<a href="http://www.youtube.com/v/2GyvgyXiYxM" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/2GyvgyXiYxM</a>
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 04, 2014, 06:47:07 PM โดย อินทะเนียร์น้อย »

ออฟไลน์ อินทะเนียร์น้อย

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6085
  • มงกุฎ: 3
    • ดูรายละเอียด
Re: สิ่งประดิษฐ์ แห่งอนาคต
« ตอบกลับ #47 เมื่อ: มีนาคม 06, 2014, 05:01:51 AM »


หลายๆท่าน..หลงไหลในสิ่งใหม่ๆ...เทคโนโลยีใหม่ๆ....แต่หลายท่านอีกเช่นกันยัง หลงไหลในความทรงจำและความหลัง กับสิ่งของที่เคยรักเคยใช้อย่างภาพที่นำมแปะให้ชมนี้ครับ...เป็นสิ่งของที่ท่านยังจำได้และระลึกถึงมันเสมอ(ยกเว้น  อีนังตัวดี  อิอิ..เมีย  อิอิ)(ยิ่งห่าง ยิ่งดี   ว้าว..)
..แต่ท่านผู้ที่อัจฉริยะของโลก  ท่านไม่เห็นต้องใช้เทคโนโลยีใหม่ๆเลย...ท่านยังเป็นอัจฉริยะได้....จบข่าว :D :D :D :D

ออฟไลน์ อินทะเนียร์น้อย

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6085
  • มงกุฎ: 3
    • ดูรายละเอียด
Re: สิ่งประดิษฐ์ แห่งอนาคต
« ตอบกลับ #48 เมื่อ: มีนาคม 11, 2014, 06:53:20 AM »
ตกลง..เเอร์มาเลฯ...ขึ้นแล้วไม่ลงจริงๆหรือ ครับ....ไหนดาวเทียมช่วยด้วยๆๆๆๆ....ผ่านมาแถวนั้นเป่า   อิอิ   จบข่าว :D :D :D :D

ออฟไลน์ อินทะเนียร์น้อย

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6085
  • มงกุฎ: 3
    • ดูรายละเอียด
Re: สิ่งประดิษฐ์ แห่งอนาคต
« ตอบกลับ #49 เมื่อ: มีนาคม 24, 2014, 07:17:11 AM »
จำได้นานมาเเล้ว ท่าน อดุลย์ เคยนำเรื่องถูงขังรถไม่ให้น้ำเข้าเมื่อเกิดน้ำถ่วม....ครั้งนั้นเมื่อน้ำท่วมใหญ่ใน กทม อันเนื่องมาจาก...วิศวกรหลับ..ปล่อยให้คนขายกาแฟคิดแก้ไขน้ำท่วม..ได้ผลดีเยี่ยม...ร้านกาแฟลอยน้ำ   อิอิ    สุดยอด
...เมื่อปีนั้นก็มียอดขาย และสั่งซื้อถุงห่อรถกันล้นหลาม....แต่ถุงนั้นเมื่อซื้อมาแล้ว บางรายเกิดไม่แน่ใจในคุณภาพของถุง...จะเล่าให้ฟัง...พอดีหมู่บ้านที่อินทะเนียร์น้อยอยู่...ก็โดนน้ำถ่วมเหมือนกันครับ  แต่เป็นช่วงปลายๆแล้ว..ช่วงต้นๆก็มี บางบัวทอง ที่ไฟดูดคนไปรับของแจก ตาย  ..ไฟฟ้ารั่ว..เเหม่..เรียกว่า ผู้ดูแลงานป้องกันน้ำท่วมครั้งนั้นได้รับ อนิสงค์ กันถ้วนหน้าในความ ดี   ...สุดยอด..เอ้า..ลืมเลย ชมคณะทำงานมืออาชีพเพลินไปหน่อย   อิอิ...อ๋อ..เรื่องถุงใสรถกันน้ำท่วม...มีบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านซื้อถุงนี้มาครับ...ก่อนน้ำจะมาถึง..สอง สามวัน ตามที่ ..ทางผู้ดูแลประกาศ  ว่าน้ำกำลังเคลื่อนตัวมาอย่างช้าๆ..ฝ่าย เจ้า พท ห้ามกัน  อีกฝ่าย ให้น้ำฝ่ายได้..เถียงกันอยู่นานจนในที่สุด..น้ำไม่สนใจไหลเข้ามา..กทม แบบ ไม่ฟังเสียง..ทำให้น้ำไหลเข้าหมู่บ้าน..โดยก่อนหน้านี้ รถในหมู่บ้าน ย้ายไปจอด ที่สูงกันหมด ตามสะพานลอย ข้างถนน..เหลือคันนี้ โชว์พลังถุงยาง  เย๊ย..พลาสติก  ...ตอนแรกก็ชมว่า  ..ช่างหลักแหลม ฉลาดเกินใครในหมู่บ้าน  ..อิอิ   แต่พอมาอีก สองวัน  ..เอ็า..หายไปไหนและ...สอบถามได้ความว่า...ชักไม่แน่ใจในคุณภาพถุงพลาสติกครับ...รถราคาเกือบล้านบาท...จมอยู่นาน  กล้วว่า ถุงรั่ว แล้วน้ำเข้าเอารถออกไม่ได้..น้ำเข้ารถหมดเลย..เสียหายมากกว่าเลยตัดสินใจ จ้างรถ ยกมายกออกไปครับ   ...นี่แหละคือของที่ใชจริงต้องมั่นใจครับ...
..แต่รายการนี้ ชาวเวียตนาม...ชาวเวียตนามนี้นับว่า ฉลาดและเก่งมากในแถบนี้ ขนาดสงครามเวียตนาม ยังตี อเมริกา ไปกระเจิง...ว่ากันว่า เวียตนามในอนาคต แถบนี้ ครองในด้านเทคโนโลยี...ได้ข่าวว่ากำลังจะผลิต มือถืขานแข่ง เกาหลีครับ..ส่วนเรา ไม่เคยคิดทำแข่ง คิดเเต่จะรวยเพราะจัดการการใช้ เทคโนโลยีครับ..3G  เขาใช้กันจนลืม นี่พึ่งมา   ...และก็พวกเดิมๆได้ไป รวยแบบง่ายๆ...ชาวเวียตนาม ใช้ถุงพลาสติก อย่างมีประสิทธิภาพ  และฉลาดสุดๆ....ดูคลิปเลย....เห็นอายเเทน ...คำว่าเอาอยู่...จริงๆๆ...เเต่ถุงใสรถของ นักเรียนอาชีวะที่ท่านอดุลย์นำเสนอครั้งนั้น  ก้อสุดยอดนะครับ  แต่ขอให้มัน การันตี เรื่องคุณภาพถุงครับ...แตุ่ถงทำแบบ เรียบๆนะดีแล้ว ไม่ต้องให้มันขรุขระ.ก็ได้ จร้าาาาาา   จบข่าว :D :D :D :D :D :D :D :D :D :D :D

<a href="http://www.youtube.com/v/jArJsC2l7d8" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/jArJsC2l7d8</a>
...

ออฟไลน์ อินทะเนียร์น้อย

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6085
  • มงกุฎ: 3
    • ดูรายละเอียด
Re: สิ่งประดิษฐ์ แห่งอนาคต
« ตอบกลับ #50 เมื่อ: มีนาคม 25, 2014, 06:00:25 AM »
เห็นภูมิปัญญา ชาวเวียตนามแล้ว..ขอปรบมืให้ครับ   ...สุดยอด  จะเห็นว่า เมื่อท่วมใหญ่ครั้งที่แล้วไม่มีใครทำแบบนี้เลย..มีแต่ถุงทราย และก็รื้อถุงทรายกัน....ท่วมครั้งต่อไปรับรองว่ามาแน่..ถุงใหญ่ๆลอยน้ำ  แต่ก็เสียวเหมือนกัน หากถุงขาดขณะอยู่กลางน้ำ น้อง นร  ไม่รอดเเน่  เรียกกันว่า..เสี่ยงมากครับ ..เฮ้อ   จบข่าว :D :D :D :D :D

ออฟไลน์ อินทะเนียร์น้อย

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6085
  • มงกุฎ: 3
    • ดูรายละเอียด
Re: สิ่งประดิษฐ์ แห่งอนาคต
« ตอบกลับ #51 เมื่อ: มีนาคม 31, 2014, 07:05:35 AM »
ขอนำรถที่แพงที่สุด ในงานมอเตอร์โชว์ ในไทยปีนี้มาให้ชมครับ..ราคา ราวๆ  42  ล้านบาท ...เฮ้อ  จะเอาถนนที่ไหนให้มันแล่นนะเนี๊ยะ   อิอิ    (หลังวันที่ 5  เดือนหน้า   ถนนโล่ง  จร้าาาาาา...อ้าวๆๆ..ไปแล้วเหรอ   อิอิ)   จบข่าว :D :D :D :D :D :D

<a href="http://www.youtube.com/v/xnF2geRlAS8" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/xnF2geRlAS8</a>

ออฟไลน์ อินทะเนียร์น้อย

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6085
  • มงกุฎ: 3
    • ดูรายละเอียด
Re: สิ่งประดิษฐ์ แห่งอนาคต
« ตอบกลับ #52 เมื่อ: เมษายน 02, 2014, 06:22:26 AM »
ก่อนที่เราจะได้มี370 ..มาชมภาพของต้นกำเนิด โดยพี่น้องตระกูลไรท์ กันมั่ง  ภาพเหล่านี้เขาประมูลกันแพงมากๆนะครับ  ไม่ใช่ว่าเขากล้วพวก เอาไปลอกทำขายนะครับ   อิอิ    แต่เป็นของเก่าที่หาไม่ได้อีกแล้ว...เหมือน 370  เป่า   อิอิ   จบข่าว :D :D :D :D :D
ปล ขอนำภาพเหล่านี้มาให้ เหล่าวิศวกรผู้สร้างสรร ได้กระตุ้นความสามารถของ ท่าน เพื่อสร้างผลงาน สู่สังคมครับ...พี่น้องสองท่านนี้ เป็นช่างซ่อมจักรยานนะครับ ไม่ได้จบ วิดวะ..เหมือนเราๆท่านๆ  นะครับ
An archive documenting the Wright brothers' pioneering advances in early flight has come to light
Wilbur Wright is photographed sitting in one of his planes
Picture: Swann Auction Galleries/BNPS




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 02, 2014, 06:24:32 AM โดย อินทะเนียร์น้อย »

ออฟไลน์ อินทะเนียร์น้อย

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6085
  • มงกุฎ: 3
    • ดูรายละเอียด
Re: สิ่งประดิษฐ์ แห่งอนาคต
« ตอบกลับ #53 เมื่อ: เมษายน 11, 2014, 06:11:23 AM »
กระทู้ ของ ท่านmaxx ยังแรงตลอดครับ...มาอีกเเหละ  ..จักรยาน..จักรกลประหยดพลังงานเพื่อมนุษย์ชาติ...ใครไม่ทราบที่คิดขึ้นมาได้เป็นคนแรก  ขอปรบมือให้ครับ...สุดยอด   ..มาชม จักรยานรุ่นใหม่ ครับ ตาม แปะ   จบข่าว :D :D :D :D :D :D
ปล กทม เคยทำทาง จักรยานแถวบ้าน ถนน กาญจนาฯ  สบายพวกขาย กระถางต้นไม้ พันธุ์ไม้ ปุ๋ย..เลย ได้ที่ว่าถุงปุ๋ย เพิ่ม  อิอิ  ..เทศฯ เก็บค่า รายเพิ่มด้วยจร้าๆๆๆ ว15

ออฟไลน์ ssuebsak

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 352
  • มงกุฎ: 3
    • ดูรายละเอียด
Re: สิ่งประดิษฐ์ แห่งอนาคต
« ตอบกลับ #54 เมื่อ: เมษายน 17, 2014, 05:46:25 PM »
ถ้าระบบดาวเทียมสื่อสาร นอกโลก สามารถส่งสัญญาณ เข้าสู่ ระบบเมนเฟรม ควบคุม หุ่นยนต์ ได้เท่าที่
ระบบของ TED แสดงให้ชม  คงต้องลองนึกถึง อาวุธ หรือ หุ่นยนต์รบ รุ่นใหม่ๆ 

(ผมนึกได้แต่เรื่องนี้ ที่จะทำให้ นักวิจัยรายนี้ ได้เงินเร็ว อ่ะนะ) 

ลองชมกันดูครับ

Nano Quadcopter Robots swarm video flying drones


และ

Raffaello D'Andrea: The astounding athletic power of quadcopters


ยังพยายามนึกอยู่ครับ  ว่า มนุษย์โลก ควรจะได้ประโยชน์จาก ระบบนี้ อย่างไร

ออฟไลน์ อินทะเนียร์น้อย

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6085
  • มงกุฎ: 3
    • ดูรายละเอียด
Re: สิ่งประดิษฐ์ แห่งอนาคต
« ตอบกลับ #55 เมื่อ: เมษายน 19, 2014, 07:39:29 AM »
ขอขอบคุณ ท่าน อาจารย์ssuebsakครับ  ที่ได้ค้นหา คลิปดีๆมาให้ชม..ชมแล้วทึ่ง จริงๆครับ..ความสามารถของนักประดิษฐและงิจัยของ ฝรั่งนี่ เขา สุดยอด จริงๆ...หลายคนเถียง ว่าเราที่เก่งที่สุดในโลก  ใช่ครับ...เเต่ว่าไม่บอกว่าเก่งอะไร   อิอิ.....จริงแล้ว บรรพบุรุษของเขา รุ่นสู่รุ่น สร้างความเก่งนี้ไว้ให้ลูกหลานของเขาครับ...ดูแต่พี่น้องตระกูลไรต์ สิครับ ช่างซ่อมจักรยานแท้  ยังสร้างเครื่องบินได้..จนเราได้ใช้มาจนทุกวันนี้ แล้ว ถ้าพี่น้องตระกูลไรท์ไม่สร้าง  แล้วมันจะมีเครื่องบินใช้กัน อะเป่าครับ...มีครับใช้โคมลอย(บอลลูน)  หลายๆอัน ผูกรวมกัน..อิอิ.(คนเดียวเหอะ..อิอิ)...แต่ว่าของเราก็รุ่นสู่รุ่นเหมือนกันครับ  โกงเเล้วรวย..อิอิ.บอกกันเป็นนโยบายตระกูลเลยที่เดียว สำหรับบางตระกูล...สุดยอด     จบข่าว    :D :D :D :D :D :D

<a href="http://www.youtube.com/v/DPqVxrJWZYY" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/DPqVxrJWZYY</a>

ออฟไลน์ อินทะเนียร์น้อย

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6085
  • มงกุฎ: 3
    • ดูรายละเอียด
Re: สิ่งประดิษฐ์ แห่งอนาคต
« ตอบกลับ #56 เมื่อ: เมษายน 21, 2014, 06:53:37 AM »




หลายท่าน ชื่นชอบและศรัทรา ท่าน..นี้ครับ...สุดยอดอั๗ฉริยะ  ของโลก  ที่หาใรเทียบเท่าได้...ขอขอบคุณ นสพ บ้านเมืองที่ลง ประวัติความเป็นมาของท่าน ให้คนรุ่นหลังได้ ฝันไปไกลเหมือนท่าน  และเป็นฝันที่เป็นจริงด้วยยย...ขอปรบมือให้ นสพ บ้านเมืองครบๆๆๆ(ฉบับ อื่น เน้นไปทาง  ผัวๆเมียๆ(น้อย) ....ฆ่ากันตายเพราะไอ้นั่นไม่เว้นแต่ละวัน..เฮ้อ(หาสาระให้เยวชนไทยดู  ยากกกกก   )   จบข่าว :D :D :D :D :D :D
ปล ท่านได้ลาโลกไป ในเือนี้นะครับ  เมื่อ ราว ห้าสิบก่อน...เมื่อเดือนเมษายน นี่แหละ  อ่านดูละกัน

 อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ยอดอัจฉริยะ
โลกผ่านวันรำลึกสำคัญในสัปดาห์นี้อีกวันหนึ่ง…เป็นวันสุดท้ายของชีวิตผู้ที่ถูกยกให้เป็นสัญลักษณ์อัจฉริยะ ซึ่งแม้ทฤษฎีสัมพันธภาพที่เขาคิดขึ้นมาจะคร่าชีวิตมนุษย์ที่คิดต่างกันกว่า 2 แสนคนในปฏิบัติการเพียงครั้งเดียวก็ตามที…”

คนสำคัญผู้นี้คืออัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักวิทยาศาสตร์ยอดอัจฉริยะ ในช่วงศตวรรษที่ 20 ผู้ยุติสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วยระเบิดปรมาณูอันทรงอานุภาพแห่งการทำลายล้าง

บาดแผลที่เกิดในหัวใจเขาถึง 20 ปีหลังจากนั้นเริ่มต้นจากตัวเขาเองเพราะเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดขึ้น ไอน์สไตน์ ได้ส่งจดหมายฉบับหนึ่งถึงประธานาธิบดีแฟรงคลิน ดี.รูสเวลท์ (Franklin Delano Roosevelt) เกี่ยวกับคุณประโยชน์ของ แร่ยูเรเนียมที่สามารถนำมาสร้างลูกระเบิดพลังงานการทำลายล้างรุนแรง เพื่อบังคับให้ญี่ปุ่นประกาศแพ้สงคราม และนำสันติภาพ (กับความยิ่งใหญ่ของอเมริกา) มาสู่โลกอีกครั้งหนึ่ง ระเบิดปรมาณูลูกแรกของโลกลงที่เมืองฮิโรชิมา (Hiroshima) ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งส่งผลให้คนเสียชีวิตทันทีกว่า 60,000 คน และเสียชีวิตภายหลังอีกกว่า 100,000 คน
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (14 มีนาคม พ.ศ.2422-18 เมษายน พ.ศ.2498) เป็นนักฟิสิกส์ทฤษฎี ชาวเยอรมันเชื้อสายยิวที่มีสัญชาติสวิสและอเมริกัน (ตามลำดับ) ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 20 เขาเป็นผู้เสนอทฤษฎีสัมพัทธภาพ และมีส่วนร่วมในการพัฒนากลศาสตร์ควอนตัม สถิติกลศาสตร์ และจักรวาลวิทยา เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ในปี พ.ศ.2464 จากการอธิบายปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก และจาก “การทำประโยชน์แก่ฟิสิกส์ทฤษฎี” ในปี ค.ศ.1905 เมื่อไอน์สไตน์อายุ 26 ปี เขาได้ตีพิมพ์การค้นพบสมการ E = mc 2 (E คือพลังงาน m คือมวล c คือความเร็วของแสง)

ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามวลขนาดเล็ก สามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานมหาศาลได้ สมการนี้นำไปสู่การสร้างระเบิดอะตอม ซึ่งเป็นเรื่องที่ทิ่มแทงจิตสำนึกของไอน์สไตน์มาตลอด 20 ปีสุดท้ายของชีวิตดังที่กล่าวแล้ว

แบบอย่างของความฉลาดหรืออัจฉริยะ ความนิยมในตัวของเขาทำให้มีการใช้ชื่อไอน์สไตน์ในการโฆษณา หรือแม้แต่การจดทะเบียนชื่อ “อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์” ให้เป็นเครื่องหมายการค้า เป็นที่เคารพนับถือ ทั้งในความเชื่อในความสง่า ความงาม และความรู้แจ้งเห็นจริงในจักรวาล (คือแหล่งเสริมสร้างแรงบันดาลใจในวิทยาศาสตร์ให้แก่นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่) เป็นสูงสุด ความชาญฉลาดเชิงโครงสร้างของเขาแสดงให้เห็นถึงองค์ประกอบของจักรวาล ซึ่งงานเหล่านี้ถูกนำเสนอผ่านผลงานและหลักปรัชญาของเขาในทุกวันนี้

เขาเคยกล่าวถึงศาสนาพุทธ ว่า “ศาสนาในอนาคต จะต้องเป็นศาสนาสากล ศาสนานั้นควรอยู่เหนือพระเจ้าที่มีตัวตน และควรจะเว้นคำสอนแบบสิทธันต์ (คือเป็นแบบสำเร็จรูปที่ให้เชื่อตามเพียงอย่างเดียว) และแบบเทววิทยา (คือพึ่งเทวดาเป็นหลักใหญ่) ศาสนานั้นเมื่อครอบคลุมทั้งธรรมชาติและจิตใจ จึงควรมีรากฐานอยู่บนสามัญสำนึกทางศาสนา ที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ต่อสิ่งทั้งปวง คือ ทั้งธรรมชาติและจิตใจอย่างเป็นหน่วยรวมที่มีความหมาย พระพุทธศาสนาตอบข้อกำหนดนี้ได้…ถ้าจะมีศาสนาใดที่รับมือได้กับความต้องการทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ปัจจุบันศาสนานั้นก็ควรเป็น พระพุทธศาสนา”

ไอน์สไตน์ได้ตีพิมพ์ผลงานทางวิทยาศาสตร์มากกว่า 300 ชิ้น และงานอื่นที่ไม่ใช่วิทยาศาสตร์อีกกว่า 150 ชิ้น ปี พ.ศ.2542 นิตยสารไทมส์ยกย่องให้เขาเป็น “บุรุษแห่งศตวรรษ”

ไอน์สไตน์ถึงแก่กรรมที่พรินซ์ตัน นิวเจอร์ซีย์ ในเดือนเมษายน ค.ศ.1955 จวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต เขายังคงชิงชังวิธีการทำลายล้างอันน่าสะพรึงกลัวของระเบิดนิวเคลียร์ ที่นักฟิสิกส์มีส่วนสร้างให้กับโลก เขาเคยกล่าวไว้ครั้งหนึ่งว่า

“หากข้าพเจ้ารู้ล่วงหน้าว่าทฤษฎีของข้าพเจ้า

จะนำไปสู่การทำลายล้างอย่างมหันต์เช่นนี้

ข้าพเจ้าขอเป็นช่างทำนาฬิกาเสียดีกว่า”

ชีวิตและผลงานของอัจฉริยะคนนี้มีอยู่ว่า ไอน์สไตน์เกิดในเมืองอูล์ม ราชอาณาจักรเวือร์ทเทมแบร์ก สมัยจักรวรรดิเยอรมัน ห่างจากเมืองสตุ๊ตการท์ทางตะวันออกประมาณ 100 กิโลเมตร ซึ่งในปัจจุบันคือรัฐบาเดิน-เวือร์ทเทมแบร์ก ประเทศเยอรมนี บิดาของเขาชื่อว่า แฮร์มานน์ ไอน์สไตน์ เป็นพนักงานขายทั่วไปซึ่งกำลังทำการทดลองเกี่ยวกับเคมีไฟฟ้า มารดาชื่อว่า พอลลีน โดยมีคนรับใช้หนึ่งคนชื่อ คอช ทั้งคู่แต่งงานกันในโบสถ์ในสตุ๊ตการ์ท (เยอรมัน : Stuttgart-Bad Cannstatt) ครอบครัวของเขาเป็นชาวยิว (แต่ไม่เคร่งครัดนัก) อัลเบิร์ตเข้าเรียนในโรงเรียนประถมคาธอลิก และเข้าเรียนไวโอลิน ตามความต้องการของแม่ของเขาที่ยืนยันให้เขาได้เรียน
อายุได้ห้าขวบ พ่อของเขานำเข็มทิศพกพามาให้เล่น และทำให้ไอน์สไตน์รู้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างในพื้นที่ที่ว่างเปล่า ซึ่งส่งแรงผลักเข็มทิศให้เปลี่ยนทิศไป เขาได้อธิบายในภายหลังว่าประสบการณ์เหล่านี้คือหนึ่งในส่วนที่เป็นแรงบันดาลใจให้แก่เขาในชีวิต แม้ว่าเขาชอบที่จะสร้างแบบจำลองและอุปกรณ์กลได้ในเวลาว่าง เขาถือเป็นผู้ที่เรียนรู้ได้ช้า สาเหตุอาจเกิดจากการที่เขามีความพิการทางการอ่านหรือเขียน (dyslexia) ความเขินอายซึ่งพบได้ทั่วไป หรือการที่เขามีโครงสร้างสมองที่ไม่ปกติและหาได้ยากมาก (จากการชันสูตรสมองของเขาหลังจากที่ไอน์สไตน์เสียชีวิต)

ไอน์สไตน์เริ่มเรียนคณิตศาสตร์เมื่อประมาณอายุ 12 ปี โดยที่ลุงของเขาทั้งสองคนเป็นผู้อุปถัมภ์ความสนใจเชิงปัญญาของเขาในช่วงย่างเข้าวัยรุ่นและวัยรุ่น โดยการแนะนำและให้ยืมหนังสือซึ่งเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์

ใน พ.ศ.2437 เนื่องมาจากความล้มเหลวในธุรกิจเคมีไฟฟ้าของพ่อของเขา ทำให้ครอบครัวไอน์สไตน์ย้ายจากเมืองมิวนิค ไปยังเมืองพาเวีย (ใกล้กับเมืองมิลาน) ประเทศอิตาลี ในปีเดียวกัน เขาได้เขียนผลงานทางวิทยาศาสตร์ชิ้นหนึ่งขึ้นมา (คือ “การศึกษาสถานะของอีเธอร์ในสนามแม่เหล็ก”) โดยที่ไอน์สไตน์ยังอาศัยอยู่ในบ้านพักในมิวนิคอยู่จนเรียนจบจากโรงเรียน โดยเรียนเสร็จไปแค่ภาคเรียนเดียวก่อนจะลาออกจากโรงเรียนมัธยมศึกษา กลางฤดูใบไม้ผลิ ในปี พ.ศ.2438 หมายถึงเขาจะไม่ได้รับใบรับรองการศึกษาชั้นเรียนมัธยม แม้ว่าเขาจะมีความสามารถชั้นเลิศในสาขาวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ แต่การที่เขาไร้ความรู้ใดๆ ทางด้านศิลปศาสตร์ ทำให้เขาไม่ผ่านการสอบคัดเลือกเข้าสถาบันเทคโนโลยีแห่งสมาพันธรัฐสวิสในเมืองซูริค เขาสำเร็จการศึกษาและได้รับใบอนุปริญญาในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2439 และสอบเข้า ETH ได้ในเดือนตุลาคม ในปีเดียวกันเขากลับมาที่บ้านเกิดเพิกถอนภาวะการเป็นพลเมืองของเขาในเวอร์เทมบูรก์ ทำให้เขากลายเป็นผู้ไร้สัญชาติ

ใน พ.ศ.2443 เขาได้รับประกาศนียบัตรสำเร็จการศึกษาจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งสมาพันธรัฐสวิส และได้รับสิทธิ์พลเมืองสวิสในปี พ.ศ.2444

เขาได้งานทำที่สำนักงานสิทธิบัตรในกรุงเบิร์น หน้าที่ตรวจประเมินใบสมัครของสิทธิบัตรในหมวดหมู่อุปกรณ์แม่เหล็กไฟฟ้า บรรจุเข้าเป็นพนักงานประจำ หลังจากถูกมองข้ามมานานจนกระทั่งกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีจักรกล

ตลอดช่วงเวลาเหล่านี้ ไอน์สไตน์แทบจะไม่ได้เข้าไปข้องเกี่ยวใดๆ ทางฟิสิกส์เลย งานที่สำนักงานจะเกี่ยวกับปัญหาเรื่องการส่งสัญญาณไฟฟ้าและการซิงโครไนซ์ทางเวลาระหว่างระบบไฟฟ้ากับระบบทางกล เป็นจุดสนใจของการทดลองนำให้ไอน์สไตน์ไปสู่ผลสรุปอันลึกซึ้งเกี่ยวกับธรรมชาติของแสงและความเกี่ยวพันระหว่างอวกาศกับเวลา

ในเวลานั้นใน Annalen der Physik ซึ่งเป็นวารสารทางฟิสิกส์ชั้นนำของเยอรมันตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับธรรมชาติเฉพาะตัวของแสง นำไปสู่แนวคิดที่ส่งผลต่อการทดลองที่มีชื่อเสียง คือปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก และบทความเกี่ยวกับอิเล็กโตรไดนามิกส์ของวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่เป็นกำเนิดของ “ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ” ผลสืบเนื่องจากแนวคิดนี้รวมถึงกรอบของกาล-อวกาศของวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่จะช้าลงและหดสั้นลง (ตามทิศทางของการเคลื่อนที่)

ไอน์สไตน์ปรับปรุงสมการสัมพัทธภาพพิเศษของเขาจนกลายมาเป็นสมการอันโด่งดังที่สุดแห่งคริสต์ศตวรรษที่ 20 คือ E = mc2 ซึ่งบอกว่า มวลขนาดเล็กจิ๋วสามารถแปลงไปเป็นพลังงานปริมาณมหาศาลได้ ซึ่งเป็นจุดกำเนิดการพัฒนาของพลังงานนิวเคลียร์

ปี พ.ศ. 2449 สำนักงานสิทธิบัตรเลื่อนขั้นให้ไอน์สไตน์เป็น Technical Examiner Second Class แต่เขาก็ยังไม่ทิ้งงานด้านวิชาการ ปี พ.ศ.2451 เขาได้เข้าเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเบิร์น พ.ศ.2453 เขาเขียนบทความอธิบายถึงผลสะสมของแสงที่กระจายตัวโดยโมเลกุลเดี่ยวๆ ในบรรยากาศ ซึ่งเป็นการอธิบายว่า เหตุใดท้องฟ้าจึงเป็นสีน้ำเงิน

ระหว่าง พ.ศ.2452 ไอน์สไตน์ตีพิมพ์บทความ พัฒนาการของมุมมองเกี่ยวกับองค์ประกอบและหัวใจสำคัญของการแผ่รังสี ว่าด้วยการพิจารณาแสงในเชิงปริมาณ ไอน์สไตน์ได้แสดงว่า พลังงานควอนตัมของมักซ์ พลังค์ จะต้องมีโมเมนตัมที่แน่นอนและแสดงตัวในลักษณะที่คล้ายคลึงกับอนุภาคที่เป็นจุด บทความนี้ได้พูดถึงแนวคิดเริ่มต้นเกี่ยวกับโฟตอน และให้แรงบันดาลใจเกี่ยวกับความเกี่ยวพันกันระหว่างคลื่นกับอนุภาค ในวิชากลศาสตร์ควอนตัม

พ.ศ.2454 ไอน์สไตน์ได้เป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยซูริค ที่มหาวิทยาลัยชาร์ลส์-เฟอร์ดินานด์ ของเยอรมันที่ตั้งอยู่ในกรุงปราก ที่นี่ไอน์สไตน์ได้ตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับผลกระทบของแรงโน้มถ่วงที่มีต่อแสง ช่วยแนะแนวทางแก่นักดาราศาสตร์ในการตรวจสอบการหักเหของแสงระหว่างการเกิดสุริยคราส ไปยังนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก

พ.ศ.2455 ไอน์สไตน์กลับมายังสวิตเซอร์แลนด์ เขาได้พบกับนักคณิตศาสตร์ มาร์เซล กรอสมานน์ ซึ่งช่วยให้เขารู้จักกับเรขาคณิตของรีมานน์และเรขาคณิตเชิงอนุพันธ์ จึงได้เริ่มใช้ประโยชน์จากความแปรปรวนร่วมเข้ามาประยุกต์ในทฤษฎีแรงโน้มถ่วงของเขา ในปลายปี พ.ศ.2458 ไอน์สไตน์จึงได้เผยแพร่ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปซึ่งยังคงใช้อยู่ตราบถึงปัจจุบัน ทฤษฎีนี้อธิบายถึงแรงโน้มถ่วงว่าเป็นการบิดเบี้ยวของโครงสร้างกาลอวกาศโดยวัตถุที่ส่งผลเป็นแรงเฉื่อยต่อวัตถุอื่น

งานวิจัยของไอน์สไตน์หลังจากทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปมีหัวใจหลักอยู่ที่การพยายามทำให้ทฤษฎีแรงโน้มถ่วง สามารถอธิบายคุณสมบัติของแม่เหล็กไฟฟ้าได้ ปี พ.ศ.2493 เขาได้พูดถึงแนวคิดเรื่อง “ทฤษฎีแรงเอกภาพ” ในความพยายามของไอน์สไตน์ที่จะรวมแรงพื้นฐานทั้งหมดเข้าในกฎเดียวกัน เขาได้ละเลยการพัฒนากระแสหลักในทางฟิสิกส์ไปบางส่วน ที่สำคัญคือแรงนิวเคลียร์อย่างเข้มและแรงนิวเคลียร์อย่างอ่อน ซึ่งไม่มีใครเข้าใจมากนัก ขณะเดียวกันแนวทางพัฒนาฟิสิกส์กระแสหลักเองก็ละเลยแนวคิดของไอน์สไตน์เกี่ยวกับการรวมแรงเช่นเดียวกัน ครั้นต่อมาความฝันของไอน์สไตน์ในการรวมกฎฟิสิกส์ทั้งหลายเกี่ยวกับแรงโน้มถ่วงจึงเป็นแรงบันดาลใจสำคัญต่อแนวทางศึกษาฟิสิกส์ยุคใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อทฤษฎีแห่งสรรพสิ่งและทฤษฎีสตริง ขณะที่มีความตื่นตัวมากขึ้นในสาขากลศาสตร์ควอนตัมด้วย

ราวคริสต์ทศวรรษ 1920 มีการพัฒนากลศาสตร์ควอนตัมให้เป็นทฤษฎีที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ไอน์สไตน์ไม่ค่อยเห็นด้วยนักกับการตีความโคเปนเฮเกนว่าด้วยทฤษฎีควอนตัม ซึ่งพัฒนาขึ้นโดย นีลส์ บอร์ กับ แวร์เนอร์ ไฮเซนแบร์ก ซึ่งอธิบายปรากฏการณ์ทางควอนตัมว่าเป็นเรื่องของความน่าจะเป็น ที่จะส่งผลต่อเพียงอันตรกิริยาในระบบแบบดั้งเดิม มีการโต้วาทีสาธารณะระหว่างไอน์สไตน์กับบอร์สืบต่อมาเป็นเวลายาวนานหลายปี

ไอน์สไตน์ไม่เคยพอใจกับสิ่งที่เขาได้รับรู้เกี่ยวกับการอธิบายถึงธรรมชาติที่ไม่สมบูรณ์ในทฤษฎีควอนตัม ในปี พ.ศ.2478 เขาค้นคว้าเพิ่มเติมในประเด็นเหล่านี้ร่วมกับเพื่อนร่วมงานอีก 2 คน คือ บอริส โพโดลสกี และ นาธาน โรเซน และตั้งข้อสังเกตว่า ทฤษฎีดังกล่าวดูจะต้องอาศัยอันตรกิริยาแบบไม่แบ่งแยกถิ่น

สิ่งที่ไอน์สไตน์ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของบอร์เกี่ยวพันกับแนวคิดพื้นฐานในการพรรณนาถึงวิทยาศาสตร์ ด้วยเหตุนี้การโต้วาทีระหว่างไอน์สไตน์กับบอร์จึงได้ส่งผลสืบเนื่องออกไปเป็นการวิวาทะในเชิงปรัชญาด้วย

พ.ศ.2465 ไอน์สไตน์ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ประจำปี 2464 ในฐานะที่ “ได้อุทิศตนแก่ฟิสิกส์ทฤษฎี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้นพบกฎที่อธิบายปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก” ซึ่งเป็นการอ้างอิงถึงงานเขียนของเขาในปี 2448 “โดยใช้มุมมองจากจิตสำนึกเกี่ยวกับการเกิดและการแปรรูปของแสง” แนวคิดของเขาได้รับการพิสูจน์อย่างหนักแน่นจากผลการทดลองมากมายในยุคนั้น…

เชื่อกันมานานว่าไอน์สไตน์มอบเงินรางวัลจากโนเบลทั้งหมดให้แก่ภรรยาคนแรก คือมิเลวา มาริค สำหรับการหย่าขาดจากกันในปี พ.ศ.2462 แต่จดหมายส่วนตัวที่เพิ่งเปิดเผยขึ้นในปี พ.ศ.2549 บ่งบอกว่าเขานำไปลงทุนในประเทศสหรัฐอเมริกา และสูญเงินไปเกือบหมดจากเหตุการณ์เศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่…เขาไม่ใช่อัจฉริยะทางธุรกิจ ไอน์สไตน์เดินทางไปนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เป็นครั้งแรก เมื่อ 2 เมษายน พ.ศ.2464
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 21, 2014, 07:07:38 AM โดย อินทะเนียร์น้อย »

ออฟไลน์ อินทะเนียร์น้อย

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6085
  • มงกุฎ: 3
    • ดูรายละเอียด
Re: สิ่งประดิษฐ์ แห่งอนาคต
« ตอบกลับ #57 เมื่อ: เมษายน 21, 2014, 07:05:12 AM »
ต่อครับ........

ระหว่างที่เดินทางท่องเที่ยว ไอน์สไตน์ได้เขียนบันทึกประจำวันส่งให้ภรรยาใหม่ของเขา คือเอลซา กับบุตรบุญธรรมอีกสองคนคือมาร์ก็อตและอิลซา จดหมายเหล่านี้รวมอยู่ในเอกสารที่ยกให้แก่มหาวิทยาลัยฮีบรู มาร์ก็อต ไอน์สไตน์ อนุญาตให้เผยแพร่จดหมายส่วนตัวแก่สาธารณชนได้ แต่จะต้องเป็นเวลา 20 ปีหลังจากเธอเสียชีวิตแล้วเท่านั้น (มาร์ก็อตเสียชีวิตในปี พ.ศ.2529) บาร์บารา โวลฟ์ ผู้ดูแลรักษาเอกสารของไอน์สไตน์ที่มหาวิทยาลัยฮีบรู ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์บีบีซีว่า มีจดหมายติดต่อส่วนตัวระหว่างช่วงปี พ.ศ.2455-2498 เป็นจำนวนมากกว่า 3,500 หน้า

สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา จัดสร้างรูปปั้นอนุสรณ์อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เป็นทองแดงและหินอ่อนและสลักโดยโรเบิร์ต เบิร์คส์ ในปี พ.ศ.2522 ตั้งอยู่ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี ใกล้กับ National Mall

ไอน์สไตน์ทำพินัยกรรมยกลิขสิทธิ์การใช้งานภาพของเขาทั้งหมดให้แก่มหาวิทยาลัยฮีบรู กรุงเยรูซาเล็ม ต่อมา บริษัท คอร์บิส คอร์ปอเรชั่น ได้รับอนุญาตให้ใช้ชื่อและภาพต่างๆ ของเขา ในฐานะตัวแทนผู้มีอำนาจแทนมหาวิทยาลัยฮีบรู

เกียรติคุณและอนุสรณ์เกิดขึ้นใน พ.ศ.2542 อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ได้รับยกย่องเป็น “บุคคลแห่งศตวรรษ” โดยนิตยสารไทมส์ กัลลัพโพล ได้บันทึกว่าเขาเป็นบุคคลผู้ได้รับการยกย่องสูงที่สุดอันดับ 4 แห่งคริสต์ศตวรรษที่ 20และจากการจัดอันดับ 100 บุคคลผู้มีอิทธิพลอย่างสูงในประวัติศาสตร์ ไอน์สไตน์เป็น “นักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งคริสต์ศตวรรษที่ 20 และหนึ่งในสุดยอดอัจฉริยะตลอดกาล”

อนุสรณ์ส่วนหนึ่งที่ยังจับต้องได้ในโลกปัจจุบันคือ สหพันธ์นานาชาติฟิสิกส์บริสุทธิ์และฟิสิกส์ประยุกต์ ได้กำหนดให้ปี พ.ศ.2548 เป็น “ปีฟิสิกส์โลก” เพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง 100 ปีครบรอบการตีพิมพ์ Annus Mirabilis Papers สถาบันอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ อนุสรณ์สถานอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ โดย โรเบิร์ต เบิร์คส์ หน่วยวัดในวิชาโฟโตเคมี ชื่อว่า ไอน์สไตน์ เคมีธาตุลำดับที่ 99 ชื่อ ไอน์สไตเนียม (einsteinium) ดาวเคราะห์น้อย 2001 ไอน์สไตน์ รางวัลไอน์สไตน์ รางวัลสันติภาพไอน์สไตน์

ปี พ.ศ.2533 ได้มีการจารึกชื่อของไอน์สไตน์เข้าไว้ใน วิหารวัลฮัลลา หอเกียรติยศซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำดานูป ประเทศเยอรมัน


ออฟไลน์ อินทะเนียร์น้อย

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6085
  • มงกุฎ: 3
    • ดูรายละเอียด
Re: สิ่งประดิษฐ์ แห่งอนาคต
« ตอบกลับ #58 เมื่อ: เมษายน 23, 2014, 07:19:05 AM »
ยังเศร้า..อยู่กับ เรือเฟอรี่ล่มที่เกาหลีนะครับ....ปัญหามาจาก ขนขับเรือ...ข่าวบางกระเเสบอกว่าให้ น้องหนูมือใหม่ถือพวงมาลัยเเทนในช่วงนั้น...แล้วตัวเองหายไปไหน....ที่เลวร้าย  เมื่อเกิดเหตุการที่เรือเอียง...ยังช่วยเหลือช้าอีก...มีเพื่อนเคยบอกว่า...พวก กัปตันนี่ไม่ต้องเอาคนเรียนเก่งไปทำหรอก  อย่างกัปตันเครื่องบินนี้่  ก็ไม่ต้องเอาคนที่เรียน หมอ วิศวฯไปทำหรอก  ..เหตุผลคือ...พวกเรียนมาก รู้มาก ตัดสินใจช้า เพราะมันคิด ทบทวนอยู่หลายครั้ง  ..คิดมันอยู่นั่นแหละ  จนเครื่องบินตก..ตายห่ากันหมดทั้งลำ...พวกเรียนไม่มาก ตัดสินใจไว  ครับ...ดังนั้น กัปตันที่ที่เป็นหมอ นะเรียนมาผิดละนะ  รัฐลงทุนให้มาเรียนหมอนะ เเพงนะครนับ  เพื่อช่วยคน ไม่ใช่มาขับเครื่องบิน...ถ้าอยากจะขับเครื่องบินไม่ต้องมาเรียนถึงขนาดนี้  ไปกันคนที่อยากจะเป็นหมอจริงที่ต้องการเพื่อนมนุษย์ครับ...เรียกว่า ใช้คนผิดประเภท  กลุ้ม....เเต่คนขับเรือลำนี้คงไม่ใช่หมอนะครับ...อิอิ
..ขอชม  พี่กันที่ส่ง ฮ  มาช้วย  สุดยอด...นี่ก็เป็นผลงานวิศวกรรม อีกชิ้นที่น่าชื่นใจ..(ใช้มันให้เป็นละกัน   อิอิ)   จบข่าว :D :D :D :D :D :D :D :D





ออฟไลน์ อินทะเนียร์น้อย

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6085
  • มงกุฎ: 3
    • ดูรายละเอียด
Re: สิ่งประดิษฐ์ แห่งอนาคต
« ตอบกลับ #59 เมื่อ: เมษายน 26, 2014, 05:41:59 AM »
ประเทศที่เขา จริญ ในหลายๆด้าน...ก็ยังพัฒนากันไปเรื่อยๆนะครับ....ของเราก็พัฒนาเหมือนกันครับ  พี่น้อง..คือ พัฒนาการ ..โกงแล้วรวย   ครับ....ฟังแล้วก็หลายคน รับไม่ได้...หลายคน บอก ไม่ใช่หน้าที่..เออ..เดี๋ยวให้มันเหลือ แต่ ตxx  แล้วจะรู้สึกว่า  ...เรามันโฮ่เอง....เจริญพร
..มาดูคลิปนี้ดีกว่าครับ...ช่างและวิศวกร ..เห็นเเล้ว  ปลื้ม....วิศวกรคือ ผู้สร้างสรร  ไม่ใช่สร้างหนี้  นะจ๊ะ...(ให้มันรู้ซะมั่ง)    จบข่าว :D :D :D :D :D :D :D :D

<a href="http://www.youtube.com/v/JAXmz0seDc0" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/JAXmz0seDc0</a>