0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
โปรดระวัง...หลุมพรางของความฉลาด !!ดร.เอ็ดเวิร์ด เดอ โบโน ปรมาจารย์ด้านความคิดสร้างสรรค์ของโลก กล่าวถึง “หลุมพรางของความฉลาด” (Intelligence Trap) ไว้ในหนังสือหลายเล่มอย่างน่าคิด และเป็นประโยชน์อย่างยิ่งท่านได้พบปะกับคนฉลาด ๆ มามากมายทั่วโลก ทำให้สังเกตเห็นว่า...หลายคนกำลังตกหลุมพราง ของความฉลาดคนที่เก่งมาก ฉลาดมาก เพราะเรียนเก่ง หรือทำงานเก่ง ถ้าเผลอ ตกหลุมฯ นี้...เขาจะกลายเป็นคนชอบโต้แย้ง (Defensive)ความที่มีเหตุมีผลแน่นมาก เวลาแย้งใครหรือโต้เถียง กับใคร เขามักยกเอาเหตุและผลมาแย้งให้คนอื่น ที่คิดแตกต่าง จากเขาจนมุมได้ไม่ยากพอโต้แย้ง ถกเถียงกับใครแล้วได้ชัยชนะมากขึ้นๆ เขาจะเริ่มติดใจใน...ความรู้สึกแห่งความสำเร็จนั้น (Sense of Achievement)...ทำให้เขาค่อย ๆ รู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่าใคร (Superior)แรก ๆ เขาอาจรู้สึกว่าเหนือคนรุ่นเดียวกัน ระดับเดียวกัน นาน ๆ ไปจะรู้สึกว่าตนเองเหนือกว่าผู้บังคับบัญชา เหนือกว่าผู้บริหารทุก ระดับ เหนือกว่าผู้บริหารองค์กร เหนือกว่าผู้บริหารประเทศ และ เหนือกว่าทุกคน----คนตกหลุมพรางของความฉลาดจึงชอบวิจารณ์ คนอื่นอย่างภาคภูมิและมั่นใจ ด้วยรู้สึกว่าผู้อื่นคิดไม่ได้อย่างเขา (ซึ่งเขาคิดได้เหนือกว่า)เมื่อรู้สึกเหนือกว่า อาการจึงค่อย ๆ แสดงออกมา คือหยิ่ง ยโส จองหอง อวดดี ทะนงตน (ซึ่งรวมเรียกว่า Arrogant)อาการนี้จะ แสดงออกได้ทั้งสายตา ท่าที การพูดและการปฏิบัติตนต่อคนอื่น ซึ่งอาการเหล่านี้ผู้คนรอบข้างสัมผัสได้คนที่เคยน่ารักจึงสามารถ กลายเป็นคนที่ไม่ค่อยน่ารัก หรืออาจถึงกับน่าเบื่อได้ ถ้าตกหลุมพรางของความฉลาดนอกจากนั้น...เขาจะเป็นคนที่ลังเลสงสัย ปิดใจ (Skeptical) รับสิ่งใหม่ ๆ ความคิดเห็นใหม่ ๆ ได้ยากมากความรู้สึก “เหนือกว่า” มัก พาให้คิดว่า ถ้าอะไรดีจริง คนอย่างตนเองคงรู้หมดแล้ว ถ้าจะมีอะไรที่ตนไม่รู้ สิ่งนั้นก็คงยังไม่ดีพอที่คนอย่างตนต้องเสียเวลาไปรู้ ไปฟัง----ความรู้สึกว่า “ข้าแน่” จะมาบดบังตาและใจของคนที่ตกหลุมพรางของความฉลาด ทุกเพศ ทุกวัย ทุกระดับ ให้เขาเปิดใจรับสิ่งใหม่ ๆ ไม่ได้ ฟังความคิดใหม่ ๆ และความรู้ใหม่ ๆ ไม่ได้เขามักฟังอะไร แล้วเข้าใจได้ยากกว่าคนอื่น เรียนอะไรได้ยุ่งยากมากกว่าคนอื่น เพราะไม่เปิดใจรับ โดยเผลอยึดเอาตนเองเป็นมาตรฐาน แล้วโต้แย้งวิธีของผู้อื่น และเห็นว่าผู้อื่นน่าจะทำอย่างที่ตนเองคิด ทั้งที่ตนเองก็ทำไม่เป็น และยังไม่รู้จริง----เขาไม่เปิดใจพร้อมที่จะรับ แต่... กลับเปิดใจพร้อมที่จะแย้ง และวิจารณ์ โดยใช้ความเห็นของตนเป็นหลักข้อมูลใหม่ ๆ ความรู้ใหม่ ๆ จึงไม่สามารถเข้าไปสะสมในกล่อง สมองของเขาเท่าใดนักผลก็คือ...เขาจะมีวิจารณญาณที่ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์มากขึ้นเรื่อยๆ โดยที่ตนเองไม่รู้ตัวนอกจากนั้น...ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ที่มีอยู่มากมาย ของคนที่ตกหลุมพรางของความฉลาดจะไม่ค่อยได้ถูก นำมาใช้สร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์ และสิ่งดีงามอย่างที่น่าจะเป็นเพราะรสนิยมของเขาเป็นแบบชอบวิจารณ์โต้แย้ง และหาจุดบกพร่องของคนอื่น (ซึ่งไม่ถูกใจตนเอง) มากกว่าที่จะคิด สร้างสรรค์สิ่งดีงาม และลงมือสร้างสรรค์งานให้เกิดขึ้นเป็นชิ้นเป็นอัน----โดยธรรมชาติ มนุษย์จะมองตนเอง ดีกว่า ความเป็นจริงอยู่แล้วดังนั้น การฝึกรู้เท่าทัน...หลุมพรางของความฉลาด และมีสติคุมตัวเองไม่ให้ เผลอตกลงไปในหลุมพรางนั้น จึงเป็นสิ่งที่พึงทำคู่ขนานไปหรือถ้าเผลอตกลงไปบ้างก็รีบดีดตัวขึ้นมา มุ่งนำความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ของตน มาสร้างสรรค์สิ่งดีงามให้เกิดขึ้น แก่องค์กร ครอบครัว สังคม และ ประเทศชาติ กันดีกว่า