ไปได้ข่าวดี..มาบอกจาก..วิศกร..จะได้เฮ...ว่างั้นนะ เอ้อ..ลองสดับ แล้วกัน ...จบข่าว
ปล นสพ บ้านเมือง
SME มีเฮ วิศวกรไทยคิดค้นเครื่องจักรราคาประหยัดป้อนตลาด ประกาศชื่อ “ยงวิศว์” เสนอนวัตกรรมแห่งความคุ้มค่า ส่ง “เครื่องบลิสเตอร์แพ็ค สำหรับ SME” และตู้น้ำกระป๋องหยอดเหรียญ ชูราคาถูกกว่าท้องตลาดเท่าตัว ชี้ธุรกิจหยอดเหรียญยังมาแรง ราคาเหมาะไม่ย้อมแมว ร่วมสร้างเจ้าของธุรกิจ เพิ่มรายได้ประชากร หนุนความมั่นคงต่อเศรษฐกิจชาติ
นายปราณ สุวิมลธีระบุตร ผู้บริหารและวิศวกร บริษัท ยงวิศว์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2556 บริษัทได้รับเงินสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ เพื่อการคิดค้นออกแบบ “ยงวิศว์ เครื่องบลิสเตอร์แพ็คกิ้งอัตโนมัติความเร็วสูง” โดยเครื่องจักรตัวนี้ถูกออกแบบเพื่อให้แพ็กสินค้าชนิดบลิสเตอร์แพ็คได้เร็วที่สุดในโลก รวมทั้งยังได้รับรางวัลเทคโนโลยีเครื่องจักรกลยอดเยี่ยม อันดับที่ 3 ประจำปี 2557 จากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ที่ผ่านมาบริษัทได้ออกแบบเครื่องจักรให้กับกิจการโรงงานทั่วไป และเล็งเห็นโอกาสในการทำสินค้าที่เป็นแบรนด์ของตัวเอง ล่าสุดได้แนะนำสินค้า 2 ชนิดออกสู่ตลาด ประกอบด้วย เครื่องบลิสเตอร์แพ็คสำหรับ SME และตู้น้ำกระป๋องหยอดเหรียญ เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก หรือ SME โดยทำการผลิตเครื่องจักรที่มีขนาดเล็ก ราคาเหมาะสมกับธุรกิจขนาดเล็กที่มีงบลงทุนที่จำกัด และต้องการการคืนทุนอย่างรวดเร็ว
ปัจจุบันอุตสาหกรรม SME มีความต้องการสร้างบรรจุภัณฑ์ให้ดูดีมีคุณค่าเทียบเท่ากับอุตสากรรมขนาดใหญ่ แต่ SME ไม่ได้ผลิตสินค้าจำนวนมาก ทำให้ไม่สามารถลงทุนทางด้านเครื่องจักรได้มากนัก ทางบริษัทจึงได้ออกแบบเครื่องบลิสเตอร์แพ็คขนาดเล็ก ภายใต้แบรนด์ “ยงวิศว์” ที่ใช้งานได้เทียบเท่ากับเครื่องขนาดใหญ่ในอุตสากรรมขนาดใหญ่ แต่ลดความเร็วในการผลิตลง
เครื่องบลิสเตอร์แพ็คสำหรับ SME สามารถแพ็กสินค้าให้อยู่ในพลาสติกขึ้นรูปและกระดาษแข็ง โดยอาศัยแผ่นความร้อนกดลงบนกระดาษแข็ง เพื่อถ่ายเทความร้อนจากกระดาษสู่แผ่นพลาสติก เพื่อละลายติดด้วยกัน ตัวอย่างสินค้าที่ใช้แพ็กเกจจิ้งแบบบลิสเตอร์แพ็ค คือ ถ่านไฟฉาย, กาวหลอด, ปากกาลบคำผิด หรือ เทปกาว จุดเด่นของเครื่องคือเครื่องมีขนาดไม่ใหญ่มากสามารถวางตั้งโต๊ะได้ และราคาประหยัด
ผู้ประกอบการ SME มักเป็นกังวลเรื่องการลงทุนสูงในการซื้อเครื่องและบริการหลังการขาย ทางบริษัทบริการออกแบบ โมลด์ไม้ที่ใช้ในการแพ็กให้กับผู้ประกอบการพร้อมรับประกันการใช้งานกับเครื่อง ผู้ประกอบการจะได้ทดลองแพ็กและปรับขนาดตามต้องการ ตัวเครื่องมีประกันอะไหล่ให้ 1 ปี นับเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับเจ้าของธุรกิจที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต โดยไม่ต้องใช้ต้นทุนสูง ราคาของเครื่องบลิสเตอร์แพ็ค เริ่มต้นที่ 40,000-43,000 บาท โดยรวม 1 เครื่อง และโมลด์ไม้ 1 ชุดสำหรับแพ็กสินค้า นับเป็นราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด ซึ่งจะอยู่ที่ 80,000 ถึง 120,000 บาท
สำหรับสินค้าที่แนะนำอีกรายการคือ “ตู้น้ำกระป๋องหยอดเหรียญ” ซึ่งเป็นกระแสที่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการขยายตัวของอสังหาริมทรัพย์ ทั้งอาคารสำนักงาน คอนโดมีเนียม ฯลฯ และธุรกิจค้าปลีกอย่างร้านสะดวกซื้อ รวมไปถึงการขยายตัวของแหล่งท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตนอกบ้านของผู้คน
นายปราณ กล่าวว่า ปัจจุบันเครื่องขายสินค้าอัตโนมัติเริ่มมีบทบาทมากแต่เครื่องส่วนใหญ่มีราคาแพงเนื่องจากนำเข้าจากต่างประเทศ ผู้ลงทุนอาจไม่สามารถทำกำไรได้อย่างรวดเร็ว ทางบริษัทจึงได้ออกแบบเครื่องตัวนี้ขึ้นมาโดยคัดเลือกคุณสมบัติที่เหมาะสมกับตลาดในเมืองไทย ซึ่งปัจจุบันเครื่องนี้อยู่ในระหว่างกระบวนการจดสิทธิบัตรกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา
จากการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคพบว่า คนไทยส่วนใหญ่เลือกดื่มน้ำอัดลมและเครื่องดื่มเพียงไม่กี่ชนิด อาทิ โค้ก เป็ปซี่ และกาแฟ ดังนั้นตู้ขายเครื่องดื่มกระป๋องนี้จึงถูกออกแบบให้สามารถใส่สินค้าได้ 3 ชนิด 3 ขนาด คือขนาดมาตราฐาน 325 ml ขนาดกระป๋องสลิม 325 ml และ ขนาด 180 ml สามารถรับเหรียญได้ 8 ชนิด ไม่รับธนบัตรหรือทอนเงิน ทำให้เครื่องมีเสถียรภาพมากกว่าเครื่องทั่วไป อีกทั้งยังสามารถให้ความเย็นแก่สินค้าได้ดีกว่า และประหยัดค่าไฟกว่าเครื่องโดยทั่วไป
“ตู้น้ำกระป๋องหยอดเหรียญ” เป็นตู้ขายเครื่องดื่มกระป๋องที่ดัดแปลงมาจากตู้เย็นตามครัวเรือน ทำให้ราคาตู้ขายสินค้ามีราคาถูก และแช่เครื่องดื่มได้เย็นกว่าตู้แช่ทั่วไป รวมถึงกินไฟน้อยมากเนื่องจากเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้ามาตรฐานเบอร์ 5 โดยกินไฟน้อยกว่า 1.2 หน่วยต่อวัน ทำให้โอกาสคืนทุนเป็นไปได้รวดเร็วขึ้น
ตู้ขายเครื่องดื่มกระป๋องสามารถใส่สินค้าได้ 3 ชนิด 3 ขนาด ใส่ได้มากถึง 100 กระป๋อง ซึ่งปริมาณไม่มากเท่ากับขนาดใหญ่ตามท้องตลาด ที่ใส่สินค้าได้ 10-25 ชนิด แต่เครื่องใหญ่ในตลาดมีความซับซ้อนและโอกาสเสียง่ายโดยเฉพาะระบบธนบัตรและทอนเงิน
บริษัทได้เริ่มแนะนำสินค้าให้กับผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของธุรกิจ เริ่มจากการเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ทดลองใช้ ในราคาค่าเช่าตู้ 2,500 บาทต่อเดือน โดยวางราคาจำหน่ายไว้ที่ประมาณ 45,000 บาท ซึ่งถูกกว่าราคาเครื่องตามท้องตลาด ซึ่งมีราคาสำหรับเครื่องมือสองที่ 95,000 บาท และเครื่องใหม่ 120,000 ถึง 250,000 บาท
“ตู้น้ำกระป๋องหยอดเหรียญเริ่มมีส่วนแบ่งตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากความรีบเร่งของสังคม และ ค่าแรงที่สูงขึ้น ตู้สามารถนำไปวางในที่พลุกพล่านที่มีคนเดินผ่านอย่างน้อย 500 คน ต่อวัน โดยเด็ก และวัยรุ่นมีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้า มากกว่าผู้ใหญ่มีอายุ นับเป็นโอกาสของผู้ที่มองหาธุรกิจเสริม หรือเจ้าของพื้นที่ที่ต้องการสร้างรายได้เพิ่ม”
ทั้งนี้คาดว่าตลาดตู้เครื่องดื่มกระป๋องยังคงเติบโตได้อีกมาก บริษัทยงวิศว์เป็นบริษัทเดียวในเมืองไทยที่สามารถเสนอเครื่องราคาถูกที่ช่วยให้คืนทุนเร็วขึ้น ลูกค้าสามารถขายสินค้าได้มากขึ้นตลอด 24 ชม. และสร้างความพอใจให้กับลูกค้าของลูกค้ามากขึ้น ทั้งนี้ตู้น้ำที่เห็นอยู่ในตลาดอาจจะไม่ใช่ตู้ใหม่ เพราะมีบางบริษัทในเมืองไทยนำเข้าตู้เก่ามาดัดแปลง โดยส่วนใหญ่เป็นตู้ที่ถูกผลิตในประเทศญี่ปุ่นและอเมริกา สามารถเข้าดูรายละเอียดได้ที่
www.yongvis.com