4261
ห้องสภากาแฟและอื่นๆ / Re: เอาเรื่องของแม่คนหนึ่งมาฝาก
« เมื่อ: เมษายน 07, 2014, 03:37:37 AM »
มาอีกแล้วครับ...พี่น้อง ที่น้องฆ่าพี่....นี่มันฆ่าทั้ง พ่อ แม่ ที่ให้กำเนิดและเลี้ยงมันมา....สังคมไทย ..ชักจะไปกันใหญ่แล้วครับ...ตัวอย่างดีๆ ในสังคมไม่มี...เป็นเหตุอย่างแน่นอน.....แต่ก็มีบบางครอบครัว ที่น้องรักพี่มากๆๆๆๆๆๆๆ.......เฮ้อ ขอให้รักกันให้มากๆๆๆๆๆไปตลอด นะจ๊ะ.....ชาวบ้านจะตาย ชั่งมัน..ขอให้ คนใคครอบครัว โคตรเง่า...รักกันเป็นปึกแผ่นช่วยกันสร้าง ช่วยกันรวย...น่าเอามาเป็น แบบอย่างให้ เยวชน ไทยนะครับ...อิอิ
...ข่าว จาก นสพ เดลินิวส์ ..ครับ...โหดไร้สมองจริงๆๆๆ....บาปกรรม ไม่เคนรู้ว่ามันมีจริง....มีจริงครับ อย่างน้อยสุด กว่าชีวิตของ น้องโหดรายนี้ จะจบลง....อีกนาน ...ความทุกข์ใจ ที่ทำอะไรลงไปในชาตินี้ มันจะเป็น หอกทิ่มแทงใจมันไป ตลอดชีวิต และเรียกคืนไม่ได้ด้วย....ตกนรก ทั้งเป็น..ขอแสดงความเสียใจต่อการจากไปทั้งสามท่าน..ขอจงสู่สุคติ
.... ตอนมันยังเด็ก ใคร อุ้มมันให้โตจนมีสมองคิดหาวิธี...มาฆ่าผู้ที่อุ้มมันตอนที่ยังเดินไม่ได้ ...สุดระยำหาที่เปรียบไม่ได้จริง...เด็กสมัยนี้ รายการทางทีวี ที่ออกแนวกร้าร้าว กำจัดมันมั่งนะ..อย่าปล่อยให้มัน รวยจนสังคมไทยเลวๆๆๆๆๆๆลงมากกว่านี้ กลุ้ม จบข่าว
ปล มาอ่านความโหดเหี้ยมของน้องรายนี้ จาก นสพ เดลินิวส์ครับ
จากกรณีสังหารโหดยกครัวตระกูล "หอมชง" รวม 3 ศพ ประกอบด้วย ร.ต.ท.ธรรมนัฐ หอมชง พนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน พ.อ.วิชัย หอมชง และ นางวนิดา หอมชง บิดาและมารดา ร.ต.ท.ธรรมนัฐ เหตุเกิดภายในบ้านพักย่านบางแค เมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา จนกลายเป็นข่าวสะเทือนขวัญ เนื่องจาก นายกิตตินันท์ หรือเต้ย หอมชง อายุ 22 ปี น้องชายของ ร.ต.ท.ธรรมนัฐ ได้ให้การรับสารภาพในภายหลังว่า เป็นผู้วางแผนสังหารพ่อ แม่ และพี่ชายของตนเอง โดยหวังฮุบมรดกมูลค่ามหาศาล ซ้ำรอยกับเหตุการณ์สังหารหมู่ 3 ศพ พ่อแม่ลูก ที่ จ.ปทุมธานี เมื่อเดือนที่แล้ว ล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (6 เม.ย.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ได้แถลงข่าวการจับกุมตัว นายกิตตินันท์ หรือเต้ย หอมชง นายศักรินทร์ หรือกอล์ฟ พันธกุล อายุ 22 ปี นายฉลาด หรืออาจารย์ป๊อด เที่ยงธรรม อายุ 53 ปี และนายสุระพงษ์ หรือจ่าแอ๊ด ชูพันธ์ อ่ายุ 47 ปี ผู้ต้องหาในคดี ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว
อย่างไรตามผู้สื่อข่าวได้รายงานว่า ก่อนที่จะมีการนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปแถลงข่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หลักสอง ได้ควบคุมตัว นายฉลาด และนายสุระพงษ์ มือปืนที่ก่อเหตุยิงครอบครัวของ ร.ต.ท.ธรรมนัฐ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านหลังเกิดเหตุ ตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสมมุติตัวเป็น นายสิริชัย หรือป้อม เพิ่มพูนศักดิ์ ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่ โดยก่อนลงมือนั้น นายสิริชัยได้ไขกุญแจเข้าบ้านซึ่งได้กุญแจมาจาก นายกิตตินันท์ที่ไปก็อปปี้กุญแจมาให้ก่อนหน้านี้ โดยมีนายสุระพงษ์ ตามประกบด้านหลัง ส่วนนายฉลาดรออยู่ในรถแท็กซี่คันที่ใช้หลบหนี เมื่อนายสิริชัยเปิดประตูเข้าไป ก็พบ ร.ต.ท.ธรรมนัฐ นอนอยู่ในห้องนอน จึงใช้ปืนขนาด 9 มม.จี้บังคับให้นอนคว่ำหน้า แล้วกดหมอนวางที่ศีรษะแล้วจ่อยิงจนเสียชีวิต จากนั้นนางวนิดาผู้เป็นแม่ได้ยินเสียงจึงลงมาจากชั้น 2 นายสุระพงษ์จึงชกนางวนิดาจนล้มลง จากนั้นนายสิริชัยได้ใช้หมอนวางบนศีรษะ และยิงจนเสียชีวิตเป็นศพที่ 2 ต่อมาผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้ขึ้นไปที่ชั้น 2 ของบ้าน และก็ทำการในลักษณะเดียวกันกับ พ.อ.วิชัย หอมชง ก่อนจะพากันหลบหนีขึ้นแท็กซี่ไป
ต่อมาในเวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หลักสอง ได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ไปฝากขังที่ศาลอาญาธนบุรี โดยนายกิตตินันท์มีสีหน้านิ่งเฉย ลักษณะเหมือนไม่เสียใจกับเรื่องที่กระทำลงไป ขณะที่ พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา (สบ 10) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชยุต รัตนอุบล ผบก.น.9 พ.ต.อ.ภาดล ประภานนท์ รอง ผบก.น.9 และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ได้เดินทางมาตรวจสอบบ้านหลังที่เกิดเหตุ ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ซึ่งทาง พล.ต.อ.จรัมพร เปิดเผยว่า จากการเข้าตรวจสอบ 2 ครั้งนั้น มีหลักฐานบางอย่างที่ยังหาไม่เจอ จากการให้การของผู้ต้องหา โดยหลักฐานพบเพียงหัวกระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 2 หัว พร้อมปลอกกระสุนชนิดเดียวกันอีกจำนวน 4 ปลอก ซึ่งจากการตรวจสอบถูกยิงมาจากปืนกระบอกเดียว โดยเป็นการยิงแบบใช้หมอนกดและยิง ต้องลงมือมากกว่า 1 คน ซึ่งสอดคล้องกับคำให้การของผู้ต้องหา พร้อมกันนี้ยังพบรอยรองเท้าที่ย่ำอยู่ภายในบ้าน เมื่อเทียบเคียงแล้วก็พบว่าเป็นของผู้ต้องหา พร้อมกันนี้ยังพบทรัพย์สินมีค่าจำนวนหนึ่ง ทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญญาติของผู้เสียชีวิตเข้ามาร่วมตรวจสอบด้วย
“สำหรับคดีนี้มีการวางแผนมาตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ย. 56 โดยมีการจ่ายค่ามัดจำกับมือปืนไว้จำนวนหนึ่ง ซึ่งทางมือปืนก็ได้มาดูลาดเลาอยู่เป็นประจำ ก่อนที่จะลงมือ พร้อมกันนี้นายกิตตินันท์ ยังได้ทำการสร้างหลักฐานลวงเจ้าหน้าที่ โดยการไปปรากฏตัวตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อให้กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพไว้ได้ พร้อมทั้งใช้ตัวบุคคลยืนยันความบริสุทธิ์ตบตาเจ้าหน้าที่ สุดท้ายก็หนีไม่พ้นการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน” พล.ต.อ.จรัมพร กล่าว
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมอีกว่า ก่อนเกิดเหตุ นายกิตตินันท์ ได้โทรศัพท์ไปหา ร.ต.ท.ธรรมนัฐพี่ชาย ว่าต้องการเงินจำนวน 60,000 บาท เพื่อจะเอาไปลงทุนกับเพื่อนเปิดฟิตเนส ด้วยความที่ ร.ต.ท.ธรรมนัฐ เป็นคนที่รักน้องชายมาก จึงไปยืมเงินเพื่อนที่เป็น นรต.รุ่นเดียวกัน ซึ่งเป็นตำรวจอยู่ สน.แห่งหนึ่ง ใน บก.น. 9 เมื่อได้เงินมา ทาง ร.ต.ท.ธรรมนัฐ ได้โอนเงินจำนวนดังกล่าวไปให้กับนายกิตตินันท์ ก่อนที่นายกิตตินันท์ จะใช้เงินจำนวนดังกล่าวจ้างมือปืนมาสังหารครอบครัวตัวเอง.
...ข่าว จาก นสพ เดลินิวส์ ..ครับ...โหดไร้สมองจริงๆๆๆ....บาปกรรม ไม่เคนรู้ว่ามันมีจริง....มีจริงครับ อย่างน้อยสุด กว่าชีวิตของ น้องโหดรายนี้ จะจบลง....อีกนาน ...ความทุกข์ใจ ที่ทำอะไรลงไปในชาตินี้ มันจะเป็น หอกทิ่มแทงใจมันไป ตลอดชีวิต และเรียกคืนไม่ได้ด้วย....ตกนรก ทั้งเป็น..ขอแสดงความเสียใจต่อการจากไปทั้งสามท่าน..ขอจงสู่สุคติ
.... ตอนมันยังเด็ก ใคร อุ้มมันให้โตจนมีสมองคิดหาวิธี...มาฆ่าผู้ที่อุ้มมันตอนที่ยังเดินไม่ได้ ...สุดระยำหาที่เปรียบไม่ได้จริง...เด็กสมัยนี้ รายการทางทีวี ที่ออกแนวกร้าร้าว กำจัดมันมั่งนะ..อย่าปล่อยให้มัน รวยจนสังคมไทยเลวๆๆๆๆๆๆลงมากกว่านี้ กลุ้ม จบข่าว
ปล มาอ่านความโหดเหี้ยมของน้องรายนี้ จาก นสพ เดลินิวส์ครับ
จากกรณีสังหารโหดยกครัวตระกูล "หอมชง" รวม 3 ศพ ประกอบด้วย ร.ต.ท.ธรรมนัฐ หอมชง พนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน พ.อ.วิชัย หอมชง และ นางวนิดา หอมชง บิดาและมารดา ร.ต.ท.ธรรมนัฐ เหตุเกิดภายในบ้านพักย่านบางแค เมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา จนกลายเป็นข่าวสะเทือนขวัญ เนื่องจาก นายกิตตินันท์ หรือเต้ย หอมชง อายุ 22 ปี น้องชายของ ร.ต.ท.ธรรมนัฐ ได้ให้การรับสารภาพในภายหลังว่า เป็นผู้วางแผนสังหารพ่อ แม่ และพี่ชายของตนเอง โดยหวังฮุบมรดกมูลค่ามหาศาล ซ้ำรอยกับเหตุการณ์สังหารหมู่ 3 ศพ พ่อแม่ลูก ที่ จ.ปทุมธานี เมื่อเดือนที่แล้ว ล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (6 เม.ย.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ได้แถลงข่าวการจับกุมตัว นายกิตตินันท์ หรือเต้ย หอมชง นายศักรินทร์ หรือกอล์ฟ พันธกุล อายุ 22 ปี นายฉลาด หรืออาจารย์ป๊อด เที่ยงธรรม อายุ 53 ปี และนายสุระพงษ์ หรือจ่าแอ๊ด ชูพันธ์ อ่ายุ 47 ปี ผู้ต้องหาในคดี ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว
อย่างไรตามผู้สื่อข่าวได้รายงานว่า ก่อนที่จะมีการนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปแถลงข่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หลักสอง ได้ควบคุมตัว นายฉลาด และนายสุระพงษ์ มือปืนที่ก่อเหตุยิงครอบครัวของ ร.ต.ท.ธรรมนัฐ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านหลังเกิดเหตุ ตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสมมุติตัวเป็น นายสิริชัย หรือป้อม เพิ่มพูนศักดิ์ ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่ โดยก่อนลงมือนั้น นายสิริชัยได้ไขกุญแจเข้าบ้านซึ่งได้กุญแจมาจาก นายกิตตินันท์ที่ไปก็อปปี้กุญแจมาให้ก่อนหน้านี้ โดยมีนายสุระพงษ์ ตามประกบด้านหลัง ส่วนนายฉลาดรออยู่ในรถแท็กซี่คันที่ใช้หลบหนี เมื่อนายสิริชัยเปิดประตูเข้าไป ก็พบ ร.ต.ท.ธรรมนัฐ นอนอยู่ในห้องนอน จึงใช้ปืนขนาด 9 มม.จี้บังคับให้นอนคว่ำหน้า แล้วกดหมอนวางที่ศีรษะแล้วจ่อยิงจนเสียชีวิต จากนั้นนางวนิดาผู้เป็นแม่ได้ยินเสียงจึงลงมาจากชั้น 2 นายสุระพงษ์จึงชกนางวนิดาจนล้มลง จากนั้นนายสิริชัยได้ใช้หมอนวางบนศีรษะ และยิงจนเสียชีวิตเป็นศพที่ 2 ต่อมาผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้ขึ้นไปที่ชั้น 2 ของบ้าน และก็ทำการในลักษณะเดียวกันกับ พ.อ.วิชัย หอมชง ก่อนจะพากันหลบหนีขึ้นแท็กซี่ไป
ต่อมาในเวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หลักสอง ได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ไปฝากขังที่ศาลอาญาธนบุรี โดยนายกิตตินันท์มีสีหน้านิ่งเฉย ลักษณะเหมือนไม่เสียใจกับเรื่องที่กระทำลงไป ขณะที่ พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา (สบ 10) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชยุต รัตนอุบล ผบก.น.9 พ.ต.อ.ภาดล ประภานนท์ รอง ผบก.น.9 และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ได้เดินทางมาตรวจสอบบ้านหลังที่เกิดเหตุ ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ซึ่งทาง พล.ต.อ.จรัมพร เปิดเผยว่า จากการเข้าตรวจสอบ 2 ครั้งนั้น มีหลักฐานบางอย่างที่ยังหาไม่เจอ จากการให้การของผู้ต้องหา โดยหลักฐานพบเพียงหัวกระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 2 หัว พร้อมปลอกกระสุนชนิดเดียวกันอีกจำนวน 4 ปลอก ซึ่งจากการตรวจสอบถูกยิงมาจากปืนกระบอกเดียว โดยเป็นการยิงแบบใช้หมอนกดและยิง ต้องลงมือมากกว่า 1 คน ซึ่งสอดคล้องกับคำให้การของผู้ต้องหา พร้อมกันนี้ยังพบรอยรองเท้าที่ย่ำอยู่ภายในบ้าน เมื่อเทียบเคียงแล้วก็พบว่าเป็นของผู้ต้องหา พร้อมกันนี้ยังพบทรัพย์สินมีค่าจำนวนหนึ่ง ทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญญาติของผู้เสียชีวิตเข้ามาร่วมตรวจสอบด้วย
“สำหรับคดีนี้มีการวางแผนมาตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ย. 56 โดยมีการจ่ายค่ามัดจำกับมือปืนไว้จำนวนหนึ่ง ซึ่งทางมือปืนก็ได้มาดูลาดเลาอยู่เป็นประจำ ก่อนที่จะลงมือ พร้อมกันนี้นายกิตตินันท์ ยังได้ทำการสร้างหลักฐานลวงเจ้าหน้าที่ โดยการไปปรากฏตัวตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อให้กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพไว้ได้ พร้อมทั้งใช้ตัวบุคคลยืนยันความบริสุทธิ์ตบตาเจ้าหน้าที่ สุดท้ายก็หนีไม่พ้นการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน” พล.ต.อ.จรัมพร กล่าว
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมอีกว่า ก่อนเกิดเหตุ นายกิตตินันท์ ได้โทรศัพท์ไปหา ร.ต.ท.ธรรมนัฐพี่ชาย ว่าต้องการเงินจำนวน 60,000 บาท เพื่อจะเอาไปลงทุนกับเพื่อนเปิดฟิตเนส ด้วยความที่ ร.ต.ท.ธรรมนัฐ เป็นคนที่รักน้องชายมาก จึงไปยืมเงินเพื่อนที่เป็น นรต.รุ่นเดียวกัน ซึ่งเป็นตำรวจอยู่ สน.แห่งหนึ่ง ใน บก.น. 9 เมื่อได้เงินมา ทาง ร.ต.ท.ธรรมนัฐ ได้โอนเงินจำนวนดังกล่าวไปให้กับนายกิตตินันท์ ก่อนที่นายกิตตินันท์ จะใช้เงินจำนวนดังกล่าวจ้างมือปืนมาสังหารครอบครัวตัวเอง.