331
ห้องเครื่องกลและอุตสาหการ / Re: เครื่องยนต์ ไฮบริด
« เมื่อ: สิงหาคม 02, 2012, 04:35:08 PM »
หวัดดีครับ กลับมาแล้ว เลยขอแจม ทีละประเด็นละกัน นะครับ
เรื่อง ค่าแบตฯ ที่จะต้องใช้เปลี่ยน ลองหันไปมองอีกภาพไหมครับ
แบตฯ โน๊ตบุคส์ ที่หลายท่านใช้ สามารถหาซื้อ หรือ เปลี่ยนเฉพาะใส้ได้ ในหลายๆแห่ง ที่เป็น ศูนย์คอมฯ ตามห้าง
แล้ว ทำไม กับ แบตฯ รถไฮบริด ช่างไทย จะทำไม่ได้ เหมือนกับ รถเก่าของผมที่พังไปแล้ว ตอนนั้นมี ปัญหากล่อง CBU พังเพราะไฟซ๊อต รถทำอะไรไม่ได้ แม้แต่ สตาร์ท ค่ากล่อง ของศูนย์ ราวสองหมื่น ของเชียงกง แปดพัน เดี๋ยวนี้ เอากล่องที่พัง ไปให้ร้านซ่อม ไม่เกิน 5 พัน เผลอๆราว 3 พันเอง
การพัฒนาของรถ ทางการตลาด ลองมามองดูกันให้ดีๆ รถยนต์ไฮบริด ผมเชื่อว่ามีวิ่งอยู่ใน ต่างประเทศ นานแล้ว และเขากำลังเริ่ม ทะยอยเปลี่ยนไปหา รถไฟฟ้า ในกลุ่มรถใช้ในเมือง หรือ เดินทางระยะสั้น ( ตอนนี้มีสถิติทำได้ 260 ไมล์ /เกือบ 400 กิโลเมตร/ ต่อการชาร์ทแบตฯ 4 - 6 ชั่วโมง )
การบริหารการตลาด โดยการเปลี่ยน ซัพพลาย แบบหักคอ ไม่สามารถทำได้ง่ายๆครับ การตลาดจึงจำเป็น ต้องค่อยๆเปลี่ยน พฤติกรรม ผู้บริโภคให้คล้อยตามไป เรื่อยๆก่อน ก่อนที่จะเปลี่ยนอย่างสมบูรณ์
จะเห็นได้จาก การเปลี่ยน พฤติกรรม จากเครื่องยนต์ สองจังหวะ ของมอเตอร์ไซด์ ไปเป็น สี่จังหวะ ซึ่ง ฮอนด้า เป็น เจ้าแรก ที่ออกรถมอเตอร์ไซด์ เครื่องยนต์ สี่จังหวะ
ส่วนประเด็น ที่มีคำแนะนำว่า เครื่องยนต์ไฮบริดของ ฮอนด้า สู้ โตโยต้า ไม่ได้นั้น ผมยังไม่ค่อยเชื่อเท่าใดนัก เพราะทั้งสองค่าย ต่างก็มี เทคโนโลยีไม่แพ้กันมากนัก และ การออกแบบของทั้งคู่ต่างกัน (บังเอิญ ไม่มีเวลาศึกษาลงลึกครับ ลองติดตามดูละกัน )
ส่วนเรื่อง Jass วิ่ง ตจว. แล้วอันตราย อันนี้ ขอเถึยง เพราะผมเคยเห็น คนขับ ไดฮัทสุ มิรา ไปเชียงใหม่มาแล้ว
นั้น ยิ่งว่า มอไซด์ สวนแล้ววูบ และผมเชื่อว่า ระบบความปลอดภัย ต้องออกแบบอย่างมี มาตรฐาน เพียงแต่ ผู้ใช้ควรรู้ว่า เป็น รถใช้ในเมือง หรือ รถสำหรับการเดินทางของครอบครัว ซึ่งวัตถุประสงค์ของการออกแบบ มันต่างกัน
ส่วนความเห็นของท่าน อดุลย์ เรื่องการลดภาษีของสินค้า ที่ช่วยลดมลภาวะ ต้องขอเรียนว่า มีมานานแล้วครับ
แต่ท่านต้อง แสดงรายละเอียดต่อ สรรพากร หรือ สรรพสามิต ให้ชัดเจนได้ว่า สินค้านั้นเป็น "กรีน โปรดักส์" จริงๆ ไม่ใช่การ เผาผลาญพลังงาน มีไอเสีย โดยเครื่องยนต์ แล้ว ผสมกับ มอเตอร์ไฟฟ้า แล้วเรียกว่า การลดมลพิษ มันยังมีการสร้างมลพิษอยู่ เพียงแต่น้อยลง ซึ่งต้องไปพิสูจน์กันทางวิทยาศาสตร์ และ วิศวกรรม
ซึ่งผมคาดว่า ทั้ง โตโยต้า ฮอนด้า และ ยี่ห้ออื่นๆ ย่อมต้องมีฝ่ายกฎหมาย ที่เข้าใจเรื่องเหล่านี้ดีอยู่แล้ว
แต่ระดับราคาที่ยังไม่ลดลงมาโดยรวม ผมเชื่อว่ามาจาก ค่าการตลาด+กำไร ที่ยังเคาะไว้สูง เนื่องจาก คู่แข่งน้อย และ ฮอนด้า กับ นิสสัน เพิ่งจากเริ่ม ออกรถรุ่น ไฮบริด ในไทย ทั้งๆที่ มันวิ่งกันเกลื่อนเมือง ในประเทศอื่น
(เป็นความเชื่อส่วนตัว ห้ามเชื่อถือตาม จนกว่าท่านจะได้ พิสูจน์แล้ว)
การส่งเสริมให้ รัฐบาลแต่ละประเทศ ออกกฎหมายส่งเสริมการลดมลพิษ หากท่านตามข่าวดีๆ จะพบว่า ปฏิณญา โตเกียว เรื่องการให้ความร่วมมือลดสภาวะเรือนกระจก หรือ การลดมลพิษ ประเทศใหญ่ๆ บางประเทศ ไม่ยอมลงนามความร่วมมือ จนมาถึง รอบโดฮา ที่เกาหลี ก็ยังถกกันอยู่ไม่จบ แต่ลงนามหรือยัง ผมไม่แน่ใจ
การพัฒนา แบตฯ ก็อย่างที่ท่าน อินทะเนียร์น้อย กล่าวไว้ก่อนหน้านี้
แต่วันที่ 7 ส.ค. คงไม่มีโอกาส ได้ดู ถ่ายทอด ตามที่ท่านอินฯ เชิญชวน เพราะรู้ตัวดีว่า คงอยู่ในกลุ่ม ครูช่าง ที่ไหนสักแห่ง ในเขตดอนเมือง พร้อมกับ สินค้า ที่ชอบใช้ นางฟ้า นางใน วรรณคดี มาโฆษณาหลังสี่ทุ่มไปแล้ว
หมดโอกาสได้ดูแน่นอน ชัวร์
เรื่อง ค่าแบตฯ ที่จะต้องใช้เปลี่ยน ลองหันไปมองอีกภาพไหมครับ
แบตฯ โน๊ตบุคส์ ที่หลายท่านใช้ สามารถหาซื้อ หรือ เปลี่ยนเฉพาะใส้ได้ ในหลายๆแห่ง ที่เป็น ศูนย์คอมฯ ตามห้าง
แล้ว ทำไม กับ แบตฯ รถไฮบริด ช่างไทย จะทำไม่ได้ เหมือนกับ รถเก่าของผมที่พังไปแล้ว ตอนนั้นมี ปัญหากล่อง CBU พังเพราะไฟซ๊อต รถทำอะไรไม่ได้ แม้แต่ สตาร์ท ค่ากล่อง ของศูนย์ ราวสองหมื่น ของเชียงกง แปดพัน เดี๋ยวนี้ เอากล่องที่พัง ไปให้ร้านซ่อม ไม่เกิน 5 พัน เผลอๆราว 3 พันเอง
การพัฒนาของรถ ทางการตลาด ลองมามองดูกันให้ดีๆ รถยนต์ไฮบริด ผมเชื่อว่ามีวิ่งอยู่ใน ต่างประเทศ นานแล้ว และเขากำลังเริ่ม ทะยอยเปลี่ยนไปหา รถไฟฟ้า ในกลุ่มรถใช้ในเมือง หรือ เดินทางระยะสั้น ( ตอนนี้มีสถิติทำได้ 260 ไมล์ /เกือบ 400 กิโลเมตร/ ต่อการชาร์ทแบตฯ 4 - 6 ชั่วโมง )
การบริหารการตลาด โดยการเปลี่ยน ซัพพลาย แบบหักคอ ไม่สามารถทำได้ง่ายๆครับ การตลาดจึงจำเป็น ต้องค่อยๆเปลี่ยน พฤติกรรม ผู้บริโภคให้คล้อยตามไป เรื่อยๆก่อน ก่อนที่จะเปลี่ยนอย่างสมบูรณ์
จะเห็นได้จาก การเปลี่ยน พฤติกรรม จากเครื่องยนต์ สองจังหวะ ของมอเตอร์ไซด์ ไปเป็น สี่จังหวะ ซึ่ง ฮอนด้า เป็น เจ้าแรก ที่ออกรถมอเตอร์ไซด์ เครื่องยนต์ สี่จังหวะ
ส่วนประเด็น ที่มีคำแนะนำว่า เครื่องยนต์ไฮบริดของ ฮอนด้า สู้ โตโยต้า ไม่ได้นั้น ผมยังไม่ค่อยเชื่อเท่าใดนัก เพราะทั้งสองค่าย ต่างก็มี เทคโนโลยีไม่แพ้กันมากนัก และ การออกแบบของทั้งคู่ต่างกัน (บังเอิญ ไม่มีเวลาศึกษาลงลึกครับ ลองติดตามดูละกัน )
ส่วนเรื่อง Jass วิ่ง ตจว. แล้วอันตราย อันนี้ ขอเถึยง เพราะผมเคยเห็น คนขับ ไดฮัทสุ มิรา ไปเชียงใหม่มาแล้ว
นั้น ยิ่งว่า มอไซด์ สวนแล้ววูบ และผมเชื่อว่า ระบบความปลอดภัย ต้องออกแบบอย่างมี มาตรฐาน เพียงแต่ ผู้ใช้ควรรู้ว่า เป็น รถใช้ในเมือง หรือ รถสำหรับการเดินทางของครอบครัว ซึ่งวัตถุประสงค์ของการออกแบบ มันต่างกัน
ส่วนความเห็นของท่าน อดุลย์ เรื่องการลดภาษีของสินค้า ที่ช่วยลดมลภาวะ ต้องขอเรียนว่า มีมานานแล้วครับ
แต่ท่านต้อง แสดงรายละเอียดต่อ สรรพากร หรือ สรรพสามิต ให้ชัดเจนได้ว่า สินค้านั้นเป็น "กรีน โปรดักส์" จริงๆ ไม่ใช่การ เผาผลาญพลังงาน มีไอเสีย โดยเครื่องยนต์ แล้ว ผสมกับ มอเตอร์ไฟฟ้า แล้วเรียกว่า การลดมลพิษ มันยังมีการสร้างมลพิษอยู่ เพียงแต่น้อยลง ซึ่งต้องไปพิสูจน์กันทางวิทยาศาสตร์ และ วิศวกรรม
ซึ่งผมคาดว่า ทั้ง โตโยต้า ฮอนด้า และ ยี่ห้ออื่นๆ ย่อมต้องมีฝ่ายกฎหมาย ที่เข้าใจเรื่องเหล่านี้ดีอยู่แล้ว
แต่ระดับราคาที่ยังไม่ลดลงมาโดยรวม ผมเชื่อว่ามาจาก ค่าการตลาด+กำไร ที่ยังเคาะไว้สูง เนื่องจาก คู่แข่งน้อย และ ฮอนด้า กับ นิสสัน เพิ่งจากเริ่ม ออกรถรุ่น ไฮบริด ในไทย ทั้งๆที่ มันวิ่งกันเกลื่อนเมือง ในประเทศอื่น
(เป็นความเชื่อส่วนตัว ห้ามเชื่อถือตาม จนกว่าท่านจะได้ พิสูจน์แล้ว)
การส่งเสริมให้ รัฐบาลแต่ละประเทศ ออกกฎหมายส่งเสริมการลดมลพิษ หากท่านตามข่าวดีๆ จะพบว่า ปฏิณญา โตเกียว เรื่องการให้ความร่วมมือลดสภาวะเรือนกระจก หรือ การลดมลพิษ ประเทศใหญ่ๆ บางประเทศ ไม่ยอมลงนามความร่วมมือ จนมาถึง รอบโดฮา ที่เกาหลี ก็ยังถกกันอยู่ไม่จบ แต่ลงนามหรือยัง ผมไม่แน่ใจ
การพัฒนา แบตฯ ก็อย่างที่ท่าน อินทะเนียร์น้อย กล่าวไว้ก่อนหน้านี้
แต่วันที่ 7 ส.ค. คงไม่มีโอกาส ได้ดู ถ่ายทอด ตามที่ท่านอินฯ เชิญชวน เพราะรู้ตัวดีว่า คงอยู่ในกลุ่ม ครูช่าง ที่ไหนสักแห่ง ในเขตดอนเมือง พร้อมกับ สินค้า ที่ชอบใช้ นางฟ้า นางใน วรรณคดี มาโฆษณาหลังสี่ทุ่มไปแล้ว
หมดโอกาสได้ดูแน่นอน ชัวร์