5716
ห้องสภากาแฟและอื่นๆ / Re: เวลามีค่าจริงๆนะ
« เมื่อ: พฤศจิกายน 08, 2012, 09:03:07 AM »
หลังจาก ฟาด ไก่นึ่งไหหล่ำไปแล้ว...ไม่แน่ใจว่า ก๊วยเตียวแคระ..มันเกี่ยวกันเป่าครับ(ขอแอบถาม ท่านorawanครับ อิอิ)...ถ้าเกี่ยว เดี๋ยวจัดให้ ..อาแป๋ะ จะได้คิดถึงความหลัง และก็คิดถึง ตำนาน.... รักเก่าที่บ้านเกิด...(ส่วนมากแล้ว ลืม อะ คิดถึง น้องหมวยโตนม แถวนี้ดีกว่า อิอิ..เคยเห็น เถ้าแก่ น่าจะอายุ ราว 70 กว่าๆนี่แหละ ควง น้องหนูขึ้นรถเมล ครั้งแรกคิดว่า เป็นลูกหลาน ที่ไหนได้ ผัว จร้าาาาา...แต่เป็น เด็ก ตจว .คงมาทำงานบ้าน แล้ว..เทิร์นคีย์ ..ม่าอาจะไม่อยู่แล้ว อิอิ..เฮ้อ
..มาดูนี่ครับ....จีนยุคใหม่ มาแนวขายเทคโนโลยี ครับ....ดู่าวนี้ จาก บ้านเมือง กันเลย...แน่นอนสุด .ไทยต้องส่งช่างและวิศวกร ไปฝึกงานที่นั่น และ วิศวกรจีนแท้ๆ มาอยู่ที่นี่ด้วย..คราวนี้แหละ ตำนานรักดอกเหมยบานครับ พี่น้อง....ผมเคยไปทำงานที่เมืองจีนเมื่อหลายปีก่อน เคยคุยกับ วิศวกรจีน หนุ่ม นะครับ...เค้าบอกผมด้วยความภูมิใจว่า ที่เมืองไทยมี คนจีนอยู่เยอะ...เขาบอกว่า เขาไม่กล้วไปอยู่ที่นั่นไม่อดตาย ด้วยเขาคือ ลูกหลานจีน มองภาพคนไทยเชื้อสาบจีน ในไทยแง่ดีและภูมิใจในเผ่าพันธุ์ จริงๆครับ พูดไป ยิ้มไป ...เออ ถ้ามาจริงๆละจะรู้ซึ้งถึงความรัก ของคนบ้านเดียวกัน...เหมือนตอนนี้ เราปลื้มกับ สส หญิง นำเข้าจากไทย เป็นคนอรก ของอเมริกา..ทีม คุณน้า บาม่า...(ช้อบ ชอบ ..อิอิ) ยั่งงั้นแหละ.....ดีครับ คิดดี ทำดี จิตใจเป็นบุญ ขึ้นสวรรค์ จบข่าว
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า เป็นครั้งแรกที่ กทม. ได้ริเริ่มให้มีโครงการเตาเผาขยะในกรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ในการบริหารจัดการขยะเขตเมืองในระยะยาว โดยใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุด ทันสมัยที่สุด และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เนื่องจากปัจจุบัน กทม.ต้องนำขยะมูลฝอยไปกำจัดด้วยวิธีการฝังกลบในพื้นที่จังหวัดนครปฐม และจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งนอกจากจะเป็นวิธีการที่ไม่ยั่งยืนแล้ว ยังจะก่อให้เกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและด้านการเมืองอีกด้วย ดังนั้นโครงการนำร่องเตาเผาขยะด้วยพลังงานความร้อนสูงจึงถือเป็นทางเลือกที่สำคัญและเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก อาทิ ญี่ปุ่น จีน และประเทศในแถบยุโรป นอกจากนี้พลังงานจากเตาเผาขยะสามารถนำไปใช้ผลิตไฟฟ้า อีกทั้งส่วนที่เหลือจากการเผาไหม้ขยะยังสามารถนำไปแปรรูปเป็นวัสดุก่อสร้างได้อีกด้วย โดยโครงการดังกล่าวจะเริ่มในเร็วๆ นี้ และใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างรวม 700 วัน
อย่างไรก็ตาม กทม. ได้เน้นให้ผู้รับผิดชอบโครงการสร้างความมั่นใจและตระหนักถึงความสำคัญของประชาชนและชุมชนโดยรอบโครงการฯ ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่าทางโครงการฯ มีการจ้างคนไทย 80 คน พร้อมทั้งจัดส่งเข้ารับการฝึกอบรมด้านเทคโนโลยีการจัดการมูลฝอยพลังงานความร้อนสูง ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งถือว่าเป็นการพัฒนาทรัพยากรบุคคลที่สำคัญ และเป็นประโยชน์กับประเทศไทยและกรุงเทพมหานครในอนาคต พร้อมกันนี้ยังได้ก่อตั้งมูลนิธิรักกันเราทำได้ เพื่อให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนประชาชนและชุมชนโดยรอบโครงการฯ อีกด้วย
http://www.youtube.com/v/ushwjurD_uM?version=3&hl=th_TH
..มาดูนี่ครับ....จีนยุคใหม่ มาแนวขายเทคโนโลยี ครับ....ดู่าวนี้ จาก บ้านเมือง กันเลย...แน่นอนสุด .ไทยต้องส่งช่างและวิศวกร ไปฝึกงานที่นั่น และ วิศวกรจีนแท้ๆ มาอยู่ที่นี่ด้วย..คราวนี้แหละ ตำนานรักดอกเหมยบานครับ พี่น้อง....ผมเคยไปทำงานที่เมืองจีนเมื่อหลายปีก่อน เคยคุยกับ วิศวกรจีน หนุ่ม นะครับ...เค้าบอกผมด้วยความภูมิใจว่า ที่เมืองไทยมี คนจีนอยู่เยอะ...เขาบอกว่า เขาไม่กล้วไปอยู่ที่นั่นไม่อดตาย ด้วยเขาคือ ลูกหลานจีน มองภาพคนไทยเชื้อสาบจีน ในไทยแง่ดีและภูมิใจในเผ่าพันธุ์ จริงๆครับ พูดไป ยิ้มไป ...เออ ถ้ามาจริงๆละจะรู้ซึ้งถึงความรัก ของคนบ้านเดียวกัน...เหมือนตอนนี้ เราปลื้มกับ สส หญิง นำเข้าจากไทย เป็นคนอรก ของอเมริกา..ทีม คุณน้า บาม่า...(ช้อบ ชอบ ..อิอิ) ยั่งงั้นแหละ.....ดีครับ คิดดี ทำดี จิตใจเป็นบุญ ขึ้นสวรรค์ จบข่าว
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า เป็นครั้งแรกที่ กทม. ได้ริเริ่มให้มีโครงการเตาเผาขยะในกรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ในการบริหารจัดการขยะเขตเมืองในระยะยาว โดยใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุด ทันสมัยที่สุด และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เนื่องจากปัจจุบัน กทม.ต้องนำขยะมูลฝอยไปกำจัดด้วยวิธีการฝังกลบในพื้นที่จังหวัดนครปฐม และจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งนอกจากจะเป็นวิธีการที่ไม่ยั่งยืนแล้ว ยังจะก่อให้เกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและด้านการเมืองอีกด้วย ดังนั้นโครงการนำร่องเตาเผาขยะด้วยพลังงานความร้อนสูงจึงถือเป็นทางเลือกที่สำคัญและเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก อาทิ ญี่ปุ่น จีน และประเทศในแถบยุโรป นอกจากนี้พลังงานจากเตาเผาขยะสามารถนำไปใช้ผลิตไฟฟ้า อีกทั้งส่วนที่เหลือจากการเผาไหม้ขยะยังสามารถนำไปแปรรูปเป็นวัสดุก่อสร้างได้อีกด้วย โดยโครงการดังกล่าวจะเริ่มในเร็วๆ นี้ และใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างรวม 700 วัน
อย่างไรก็ตาม กทม. ได้เน้นให้ผู้รับผิดชอบโครงการสร้างความมั่นใจและตระหนักถึงความสำคัญของประชาชนและชุมชนโดยรอบโครงการฯ ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่าทางโครงการฯ มีการจ้างคนไทย 80 คน พร้อมทั้งจัดส่งเข้ารับการฝึกอบรมด้านเทคโนโลยีการจัดการมูลฝอยพลังงานความร้อนสูง ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งถือว่าเป็นการพัฒนาทรัพยากรบุคคลที่สำคัญ และเป็นประโยชน์กับประเทศไทยและกรุงเทพมหานครในอนาคต พร้อมกันนี้ยังได้ก่อตั้งมูลนิธิรักกันเราทำได้ เพื่อให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนประชาชนและชุมชนโดยรอบโครงการฯ อีกด้วย