เมืองไทยน่าอยู่ที่สุด

[อินทะเนียร์น้อย]

จริงครับ ท่าน อดุลย์...ถ้านานๆได้เจอกันละก้อ...แน่นอนครับ....แถมด้วยกระโดดหอมแก้ม..ว้าว  อิจฉา จัง  อิอิ..(ฉลองเปิดโหลน้ำผึ้งหมักกล้วยน้ำว้าเสริฟให้ชื่นใจ  เฮ้อ  หายเหนื่อย  (จะเหนื่อยหนักอีกรอบ  ขอบอก  อิอิ))..จบข่าว

[yommatood]

ถ้าอาหารไม่ถูกปาก ลองแวะไปชิมแถวบ้านแดงดูดิ

แม้.......ท่านยมฯ ก้อรู้ทั้งรู้ว่าผมไม่ถูกกับอะไรที่มันสีแดงๆ  เห็นใครใส่เสื้อแดงแล้วมาเดินใกล้ๆ ยิ่งสกรีนรูปใครบางคนที่ทำตัวลอยไปลอยมาใส่ลงมาที่เสื้อด้วย อดใจที่จะทำแกล้งหกล้มเอามือกระแทกปากมันไม่ได้จริงๆครับ....555+

อ่ะ.....ล้อเล่น 

ถ้าแดงแบบในเมืองไทยก็ไม่ไหวเหมือนกันครับท่าน กลัวจะเป็นอาการแบบเดียวกัน แต่นี่เป็นแดงที่สิงคโปร์

หรือจะกินไก่ย่างแบบนี้ก็อร่อยแซ่บไปอีกแบบครับท่าน อิอิ

[อินทะเนียร์น้อย]

เย๊ย...ท่านyommatood....คุณน้าท่านนี้ยังขายไก่ย่าง อยู่เป่า...อิอิ   เกรงว่าจะไปเจออีกเจ้าที่หลังคาสีเหลือง...ที่เขียนว่า...."ไก่ย่าง ตีนถีบ(ปั่น)..หน้าเหลืองกินไ้ด้  หน้าแดงกิน(แดก..กระเดือก..ยัดห่า)ดี"...จบข่าว

[อินทะเนียร์น้อย]

อยู่ที่นี่ นอกจากจะอบอุ่นแล้ว ยังมีไก่ย่างแบบที่ ท่านyommatoodฝากมาให้ได้ รับประทาน กันครับ..อิอิ
เป็นจริง อย่างหัวข้อกระทู้ของ ท่านkamolsilpจั่วหัวครับ...เพราะอย่างที่เราทราบกันครับ...นักร้องดังในอดีตของเรา ต้องจบชีวิตในต่างเเดน แบบว่า น่าสลด (ไม่ได้ซ้ำเติมนะครับ เป็นการเสวนาในฐานะคนชาติเดียวกัน)...อินทะเนียร์น้อย ได้มีบุญที่ได้ไป ตปท เหมือนกันก็พบว่า ไม่เหมือนถิ่นที่เราเกิด ....ข่าวการเสียชีวิตนี้ อ่านข่าวที่แนบมาให้ได้อ่านกันแล้ว จาก เดลินิวส์...เศร้า ...ไอ้มืด.เป็นวายร้ายหรือเปล่า...ถ้าใช่ สุดเศร้า ที่ต้องไปเช่าบ้านอยู่กับมัน.....คงจะเหมือน ชาวต่างชาติแถวๆบ้านเรานะครับ...อยากมีงานทำ  อยากมีเงินมากๆในการทำงานเพื่อส่งไปช่วยเหลือ ญาติพี่น้องที่อยู่ข้างหลัง...แต่   เฮ้อ กลับต้องเป็น เช่นนี้..เป็นอุทาหรณ์.ถ้าใครแถวๆนี้จะมาทำงานในไทยละก้อ ก็ขอเตือนอย่ารับงานในไร่แถวเพชร ละกัน..เศร้า..จบข่าว
ปล ข่าว จาก เดลินิวส์ ครับ


วันนี้( 13 ต.ค.) นายผดุงศักดิ์ แวงวรรณ พี่ชายของ เอ๋-พัชรา แวงวรรณ  อดีตนักร้องนำวงดิ โอเวชั่น ที่ผูกคอตายปริศนาอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าทั้งครอบครัวไม่เชื่อว่าน้องสาวจะฆ่าตัวตาย เพราะไม่เคยมีพฤติกรรมในลักษณะเช่นนี้มาก่อน หลังจากตนแจ้งข้อกังขาไปยังสถานกงสุลไทยที่สหรัฐอเมริกาว่า ไม่เชื่อว่าผูกคอตาย ก็ได้รับแจ้งจากกงสุล ว่าขอให้ทำหนังสือใช้สิทธิของความเป็นญาติพี่น้องและญาติ แจ้งความจำนงไปจึงจะดำเนินการให้ได้

“กำลังเตรียมหลักฐานเอกสารเพื่อจะยื่นผ่านเจ้าหน้าที่ผ่านศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด ไปยังสถานกงสุลไทย ประสานส่งไปยังกงสุลไทยที่สหรัฐอเมริกา แสดงความจำนงขอรับศพจากตำรวจสหรัฐ เพื่อชันสูตรและผ่าพิสูจน์ศพหาสาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจนต่อไป ก่อนที่จะนำศพน้องสาวกลับมาประเทศไทย ไม่เชื่อเด็ดขาดว่าจะคิดสั้นฆ่าตัวตาย เชื่อว่าจะต้องมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง จึงยอมเสียเวลาพิสูจน์ แล้วจึงจะนำศพกลับมาเมืองไทย” พี่ชาย เอ๋-พัชรา กล่าว


นายผดุงศักดิ์ กล่าวต่อว่า น้องสาวมักเล่าประจำว่า ช่วงที่พักอยู่ที่บ้านในที่เกิดเหตุ ได้เช่าบ้านอาศัยอยู่กับครอบครัวชาวอเมริกันผิวดำชายอายุ 80 ปี ที่ภรรยาเสียชีวิตแล้ว และมีลูกชายผิวดำอายุกว่า 40 ปี อาศัยอยู่ด้วย ซึ่งน้องสาวเล่าประจำว่ามีปัญหาและมีปากเสียง เกิดความขัดแย้งกันเป็นประจำ เดือนละหลายครั้ง และมีปากเสียงกับ 2 พ่อลูกอยู่เสมอ  แต่ก็ต้องทนอยู่ เพราะหาที่อยู่ลำบาก และบ่นไม่สบายใจมาโดยตลอด ดังนั้นเพื่อคลายข้อสงสัยในประเด็นนี้ จึงทำเรื่องยื่นไปขอผ่าพิสูจน์ จนกว่าจะมั่นใจว่าไม่ได้ถูกฆาตกรรมแล้วจัดฉากแขวนคอตายอำพรางคดี คาดว่าใช้เวลา 1 เดือน จะทราบผล