เรียนแล้วรวยกับอย่าไปเรียนมันดีกว่า....เริ่มมีประเด็น....เมืื่อเจอกับข่าวนี้....จาก คมชัดลึก..ครับ
..กลับมาเสวนากันอีกนิด...อันที่จริงมีน้อยคนมากที่ยืนนอกแถวได้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับจังหวะเวลาที่เปลี่ยนไปของ คนในโลกนี้....เอาเป็นว่าเรียนไว้นะดี เพราะมันเป็นการที่ได้โอกาสมากกว่าที่ไม่เรียนนะครับ นี่คือความเห็นอีหนึ่งเท่านั้นนะครับ เมือผู้เรียนมาไม่มากแต่เป็น ตย ให้คนรุ่นหลังในการทำดีกับสังคมโลกเราก็ ชื่นชมยินดีกับเขาเขาถทอว่า เป็นบุญในใจของเราก็เเล้วกันนะครับ ส่วนพวกที่ไม่เรียนแล้วทำให้สังคมเสียหายไม่เป็น ตย ที่ดีกับเยวชนนี่ ..สาปส่งให้ลง นรกชั้นใต้ดิน B5ที่ไม่มี ลิฟท์ ด้วย..หลายท่านมองเห็นว่าใครบ้างในสังคมไทย..ไปเร็วๆเลย ..ยุคนี้เป็นยุคของ คนดีมีน้ำใจกล้าแกร่งมากำจัดมารร้ายของแผ่นดิน .. แบบไม่เรียนเลยแล้วรวย ไม่มีนา..อิอิ พล่ามซะยาว..ชมข่าวกันเลยจร้าาาาาาา จบข่าว
'มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก' เข้าใกล้ตำแหน่งมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลก หลังแซงหน้าสองผู้ก่อตั้งกูเกิล มีทรัพย์สินรวมกว่า 1 ล้านล้านบาท
25 ก.ค. 57 มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก บริการสังคมออนไลน์บนอินเทอร์เน็ต ที่เชื่อมต่อคนทั่วโลกเข้าด้วยกัน กำลังมีฐานะมั่งคั่งขึ้นเรื่อยๆ และกำลังจะรวยแซงหน้า เซอร์เกย์ บริน และแลร์รี เพจ ผู้ร่วมก่อตั้งกูเกิล เสิร์ชเอนจิน ที่มีคนใช้งานมากที่สุดในโลก
ดัชนีเศรษฐีพันล้านของบลูมเบิร์ก (Bloomberg Billionaires Index) ระบุว่า มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ประธานของเฟซบุ๊ก มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นอีก 1,600 ล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 6 หมื่นล้านบาท ทำให้เขามีทรัพย์สินรวม 33,300 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 1 ล้านล้านบาท แซงหน้าบริน วัย 40 ปี และเพจ วัย 41 ปี รวมทั้งเจฟฟ์ เบซอส ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ CEO ของอเมซอน วัย 50 ปีด้วย
ปัจจุบัน ซักเคอร์เบิร์ก อยู่ในอันดับที่ 16 ของมหาเศรษฐีของโลก ส่วนสองผู้ก่อตั้งกูเกิล อยู่อันดับที่ 16 - 17 และเบซอส อยู่อันดับที่ 20 // เดวิด เคิร์กแพ็ททริค ผู้เขียนหนังสือ " เดอะ เฟซบุ๊ก เอฟเฟ็ค " ให้ความเห็นว่า " เขาเพิ่งจะเริ่มต้น และเขากำลังจะกลายเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดบนโลกใบนี้ " เขาบอกด้วยว่า ความสำเร็จของบริษัทนี้เติบโตขึ้นทุกนาที และไม่มีสัญญาณบ่งชี้ให้เห็นว่าจะมีการชะลอตัวแต่อย่างใด
เฟซบุ๊ก ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมนโล พาร์ค ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้เผยรายได้ในไตรมาสที่สอง ที่เพิ่มขึ้น 61 เปอร์เซ็นต์ เป็น 2,910 ล้านดอลลาร์ สูงกว่ายอดเฉลี่ยที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ที่ 2,810 ล้านดอลลาร์ ส่วนรายได้ของกูเกิล ก็โค่นปากกานักวิเคราะห์เช่นกัน โดยส่วนใหญ่เป็นเพราะความแข็งแกร่งของโฆษณาทางออนไลน์
รายรับของเฟซบุ๊ก พุ่งไปถึง 183 เปอร์เซ็นต์ ในช่วง 12 เดือนที่่ผ่านมา โดยรายได้ 62 เปอร์เซ็นต์ มาจากการขายโฆษณา และเพิ่มขึ้น 59 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่รายได้สุทธิเพิ่มกว่าสองเท่าเป็น 791 ล้านดอลลาร์ ซึ่งภาพรวม ได้แสดงให้เห็นว่า เฟซบุ๊กครองส่วนแบ่งในตลาดโฆษณาดิจิตอล เมื่อปี 2556 ราว 5.8 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มจาก 4.1 เปอร์เซ็นต์ ของเมื่อปี 2555
นอกจาก ซักเคอร์เบิร์ก คนที่อยู่รอบตัวเขาก็พลอยร่ำรวยไปด้วย รวมทั้ง ดัสติน มอสโควิทซ์ วัย 30 ปี ที่เริ่มต้นทำเว็บไซต์โซเชียล เน็ตเวิร์ค กับซักเคอร์เบิร์ก ตั้งแต่ยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เมื่อ 10 ปีก่อน และเชอริล แซนด์เบิร์ก ประธานคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ วัย 44 ปี ที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีนีหญิงที่อายุน้อยที่สุดในสหรัฐ เมื่อเดือนมกราคม โดยเป็นเจ้าของหุ้น 9.9 ล้านหุ้น มูลค่า 740 ล้านดอลลาร์
ปัจจุบัน ตำแหน่งมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดของโลก ยังคงเป็นของบิล เกตส์ ผู้ก่อตั้งอาณาจักรไมโครซอฟท์ ผู้ครอบครองทรัพย์สิน 84,700 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2,700,000 ล้านบาท และยังเพิ่มขึ้นอีก 7.9 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ ส่วนอันสองคือ คาร์ลอส สลิม มหาเศรษฐีชาวเม็กซิกัน เจ้าพ่อธุรกิจคมนาคมสื่อสาร มีทรัพย์สิน 78,800 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2,500,000 ล้านบาท