ขอปรบมือให้คนไทยที่มีหัวใจพัฒนาไม่แพ้ชาติอื่นใดในโลก.... นี่เป็นผลงานด้านวิศวกรรมที่น่าชื่นชมและยกย่อง สร้างสรรในสิ่งที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ และเเลดูจะเป็นนวัตกรรมใหม่ของการใช้พลังงานแางอาทิตย์ด้วย ที่ชาวโลกต้องตะลึงในอนาคต...นี่สิคนไทยตัวจริง...ไม่เห็นต้องไปจ้างโค้ชห่วยแตกมาช่วยออกแบบกันเลย...พวกที่จ้างคนต่างชาติมารังแกคนไทย คิดใหม่ได้แล้ว...น่าอายจริงๆๆ..
.. หาก ท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องเรือไฟฟ้าไทยนี้ ..มาเพิ่มเติมได้เลยนะครับ..ขอขอบคุณล่วงหน้า จะได้ปลื้มไปด้วยกันจร้าาาา ว่าแต่ว่าครั้งหนึ่ง อินทะเนียร์น้อย เคยทำเล่นในคลองข้างบ้านใช้ แบตรถยนต์ครับ 12V เท่านั้น แตพอมอเตอร์จีนเข้ามา เลย จบข่าวไป เพราะถูกและดีกว่า อิอิ เรือมันจมด้วย อิอิ (คนนั่งหนักไป กลุ้ม) จบข่าว
ปล ข่าว จาก นสพ เดลินิวส์
เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ก.ค. ที่ผ่านมา บริเวณทะเลสาบภายในหมู่บ้าน นิชดาธานี ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.อ.ท.มรกต ชาญสำรวจ อดีตเจ้ากรมสรรพาวุธทหารอากาศ ประธานบริษัทคลีนฟูเอล เอ็นเนอร์ยี เอ็นเตอร์ไฟรส์ จำกัด เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ “อินฟาเรดเทอร์บาย เอ็นจิน” หรือ ที่เรียกว่า "เฮอร์คิวลิส"ที่นำมาใช้กับเรือโดยสารในรูปแบบพลังงานแสงอาทิตย์
โดย พล.อ.ท.มรกต เปิดเผยว่า จุดเริ่มต้นมาจากการแนวคิดที่ว่าปัจจุบันในแม่น้ำเจ้าพระยา มีเรือโดยสารที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลจำนวนมากซึ่งเรือแต่ละลำต้องใช้น้ำมัน ซึ่งนำเข้าจากต่างประเทศถึงปีละ 40 ล้านลิตร และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 296,400 ตันต่อปี ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งมลพิษทางอากาศซึ่งตนเองและทีมงานมองว่าหากเปลี่ยนมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์ที่มีอยู่มากในประเทศ มาปรับใช้เป็นพลังงานในการขับเคลื่อนเรือจะทำให้สามารถประหยัดได้ถึง 560 ล้านบาทต่อปี ด้วยเหตุนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้คิดค้นพลังงานทดแทนขึ้นมาโดยนำเรือโดยสารมาใช้พลังงานไฟฟ้าและพลังงานแสงอาทิตย์
สำหรับเรือต้นแบบที่ได้ประดิษฐ์คิดค้นมานั้นตัวเรือประกอบด้วยอลูมิเนียม ขนาดระวางขับน้ำ 5 ตัน ความกว้าง 2.60 เมตร ความยาวนับจากกาบเรือ ประมาณ 6-7 เมตร สูง 180เซนติเมตรหนัก 1,974 กิโลกรัม กินน้ำลึก 20 เซนติเมตร สามารถจุคนได้20 ที่นั่ง ในส่วนของเครื่องยนต์ใช้มอเตอร์ ที่เรียกว่า เฮอร์คิวลิสโดยนำเอาพลังงานแสงอาทิตย์จากโซล่าเซลล์มาใช้ ซึ่งมีอินฟาเรดเป็นตัวกำหนดการจ่ายพลังให้กับเฮอร์คิวริสที่สำคัญจากการทดสอบในระยะเวลา 7 วัน พบว่าเรือดังกล่าวสามารถเดินเครื่องติดต่อกันได้โดยเครื่องไม่หยุดการทำงาน
พล.อ.ท.มรกต กล่าวต่อไปอีกว่า ส่วนประกอบที่สำคัญอีกอย่างนั้นคือ แผงโซลาเซลล์ ที่ติดตั้งอยู่บนหลังคา 4 แผ่น ทำหน้าที่เก็บพลังงานลงแบตเตอรี่ ที่ประกอบด้วยมอเตอร์ 3 ตัวโดยเครื่องยนต์ ซ้าย-ขวาชาร์จกระแสไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ หรืออาศัยพลังงานแสงอาทิตย์ ส่วนเครื่องยนต์ตัวกลางอาศัยกระแสไฟฟ้าที่ชาร์จจากไฟบ้านไว้ใช้สำรองกรณีที่ต้องใช้ความเร็วมากๆ หรือพลังงานไม่เพียงพอซึ่งค่าใช้จ่ายในการชาร์จก็จะตกวันละ 16 บาท วิ่งได้ตลอดทั้งวันส่วนความเร็วในการเดินทางประมาณ 8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อใช้เครื่องยนต์ซ้าย-ขวาสลับกันความเร็วสูงสุดมากกว่า 24 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อใช้มอเตอร์พร้อมกันทั้ง 3 ตัว นอกจากนี้ในส่วนของใบพัดที่ใช้มีทั้งสิ้น3 ใบพัด ประกอบไปด้วยใบพัด 10 นิ้ว ขนาบข้างซ้าย-ขวา ใช้สำหรับความเร็วเดินทาง และใบพัดขนาด 12 นิ้ว อยู่ตรงกลางทำหน้าที่เดินหน้าถอยหลัง
พล.อ.ท.มรกต กล่าวอีกว่า ข้อดีของพลังงานทดแทนเฮอร์คิวลิสนั้น ใช้พลังงานจากโซลาเซลล์น้อยมาก พลังงานดังกล่าวจะกินไฟเพียง 12 แอมป์ต่อชั่วโมง ให้แรงขับเคลื่อน 7-10 แรงม้า กรณีที่เดินเครื่องติดต่อกัน 2 ชั่วโมง จะกินไฟเพียง 24 แอมป์ที่สำคัญเรือดังกล่าวประหยัดพลังงานไม่ต้องพึ่งน้ำมันและไม่ทำให้โลกร้อนในส่วนของต้นทุนในการสร้าง ตัวเรือ 4 แสนบาทต่อลำและได้มีการจดสิทธิบัตรกับทางกรมทรัพย์สินทางปัญญาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยวันที่ 23 ก.ค. เวลา 10.00 น. ที่ทะเลสาบ ภายในหมู่บ้านนิชดาธานีแห่งนี้ จะมีการเปิดตัว “เรือเฮอร์คิวลิส” นวัตกรรมใหม่อย่างเป็นทางการ ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ เบอร์ 086-349-0627 คุณภราดร แสงสุวรรณ ผู้ประสานงาน