ผู้เขียน หัวข้อ: เครื่องยนต์ ไฮบริด  (อ่าน 17562 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ jubu

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 376
  • มงกุฎ: 3
  • เพศ: หญิง
    • ดูรายละเอียด
เครื่องยนต์ ไฮบริด
« เมื่อ: กรกฎาคม 30, 2012, 04:23:14 PM »
สงสัยว่ารถเครื่องยนต์ไฮบริด มันเหมาะกับการวิ่งทางไกลและต้องใช้ความเร็วหรือเปล่าคะ หรือมันเหมาะที่จะเป็นรถซิตี้คาร์ สนใจรถเครื่องยนต์ไฮบริด แต่รู้มาว่าแบตลูกนึงราคาหลายตังอยู่ ถ้าจะเอามาวิ่งใช้งานในเมืองรถติด และวิ่งตจว.บ้างเป็นครั้งคราวจะเหมาะไม๊คะ และจะใช้ความเป็นไฮบริดของมันได้แบบเต็มประสิทธิภาพ ที่ลักษณะการใช้งานแบบไหน ช่วยอธิบายให้jubuเข้าใจหน่อย ค่าาา

ออฟไลน์ อินทะเนียร์น้อย

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6114
  • มงกุฎ: 3
    • ดูรายละเอียด
Re: เครื่องยนต์ ไฮบริด
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 30, 2012, 08:56:37 PM »
รอฟัง อาจารย์ใหญ่ มาเล่าให้ฟังก่อน แล้วค่อยเสริมด้านไฟฟ้าครับ  ท่าน jubu  อิอิ  จบข่าว
ปล ท่าน ออกรอบ อยู่ทางใต้  อิอิ

ออฟไลน์ ssuebsak

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 352
  • มงกุฎ: 3
    • ดูรายละเอียด
Re: เครื่องยนต์ ไฮบริด
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 31, 2012, 11:00:25 AM »
ลอกมาจากที่นี่ครับ http://www.caronline.net/PostingDetail.aspx?PostID=5711 
เอามาให้อ่านกันก่อน แล้วค่อยมาวิจารณ์กันอีกที เพราะของ ฮอนด้า ดูเหมือนระบบที่ออกมาจะต่างจากของ Toyota
ส่วนราคาแบตฯ ไม่น่ากลัวหรอกครับ เดี๋ยวพอคนใช้เยอะๆราคามันก็ถูกลงมาเองครับ
และระบบจะค่อยๆเปลี่ยน จนไปเป็น รถไฟฟ้า ที่เราเคยคุยกันมาแล้ว ตอนที่ เซอร์เวอร์ ไม่ถูกโจมตีจนหายหมด

-------------------------------------------------

ระบบขับเคลื่อนไฮบริด ที่โตโยต้าพัฒนาขึ้นคือ ระบบการทำงานร่วมกันแบบสมบูรณ์ครบวงจร หรือ Series Parallel Hybrid System ซึ่งนับเป็นเทคโนโลยีไฮบริดที่ก้าวหน้าที่สุดในปัจจุบัน เพราะเป็นระบบที่สะดวกง่ายต่อการใช้งาน และมีความทนทาน ให้สมรรถนะการขับขี่เหมือนกับรถยนต์ทั่วๆไป แต่ในขณะเดียวกันกลับให้คุณประโยชน์ที่เหนือกว่าทั้งประหยัดเชื้อเพลิงและลดมลพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ในปี 2540 โตโยต้า นำรถยนต์ไฮบริดออกจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก โดยใช้ชื่อว่า พรีอุส (PRIUS) และในปี 2543 การจำหน่ายพรีอุสในต่างประเทศก็เริ่มขึ้น ปัจจุบันมีจำหน่ายใน 44 ประเทศทั่วโลก ยอดจำหน่ายรวมมากกว่า 1.8 ล้านคัน

รถยนต์ไฮบริด คือ รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงาน 2 แบบในรถยนต์คันเดียวกัน กล่าวคือ พลังงานจากเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และพลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้กระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ โดยทั้งสองระบบจะทำงานผสมผสานกันตลอดเวลาอย่างมีประสิทธิภาพและชาญฉลาด เพื่อขับเคลื่อนรถยนต์จึงช่วยประหยัดเชื้อเพลิงและลดการปล่อยมลพิษ ในขณะเดียวกันก็ให้สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่ารถยนต์ทั่วไป
ระบบขับเคลื่อนไฮบริด ที่โตโยต้าพัฒนาขึ้นคือ ระบบการทำงานร่วมกันแบบสมบูรณ์ครบวงจร หรือ Series Parallel Hybrid System ซึ่งนับเป็นเทคโนโลยีไฮบริดที่ก้าวหน้าที่สุดในปัจจุบัน เพราะเป็นระบบที่สะดวกง่ายต่อการใช้งาน และมีความทนทาน ให้สมรรถนะการขับขี่เหมือนกับรถยนต์ทั่วๆไป แต่ในขณะเดียวกันกลับให้คุณประโยชน์ที่เหนือกว่าทั้งประหยัดเชื้อเพลิงและลดมลพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ในปี 2540 โตโยต้า นำรถยนต์ไฮบริดออกจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก โดยใช้ชื่อว่า พรีอุส (PRIUS) และในปี 2543 การจำหน่ายพรีอุสในต่างประเทศก็เริ่มขึ้น ปัจจุบันมีจำหน่ายใน 44 ประเทศทั่วโลก ยอดจำหน่ายรวมมากกว่า 1.8 ล้านคัน

รถยนต์ไฮบริด คือ รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงาน 2 แบบในรถยนต์คันเดียวกัน กล่าวคือ พลังงานจากเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และพลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้กระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ โดยทั้งสองระบบจะทำงานผสมผสานกันตลอดเวลาอย่างมีประสิทธิภาพและชาญฉลาด เพื่อขับเคลื่อนรถยนต์จึงช่วยประหยัดเชื้อเพลิงและลดการปล่อยมลพิษ ในขณะเดียวกันก็ให้สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่ารถยนต์ทั่วไป
ประเภทของระบบไฮบริด
ระบบไฮบริดมี 3 ประเภท
1)ระบบไฮบริดแบบอนุกรม ระบบนี้เครื่องยนต์จะไปหมุนเจเนเรเตอร์ จากนั้นมอเตอร์ไฟฟ้าจะใช้กระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้นี้ส่งกำลังไปที่ล้อ ทำให้ล้อหมุน ระบบนี้เรียกว่าระบบไฮบริดแบบอนุกรม เพราะว่ากำลังขับเคลื่อนที่จ่ายไปที่ล้อนั้น จ่ายไปตามกำลังเครื่องยนต์และกำลังมอเตอร์ตามลำดับ ระบบไฮบริดแบบอนุกรมสามารถทำให้เครื่องยนต์กำลังต่ำ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อเนื่อง โดยให้กำเนิดกำลังไฟฟ้าและจ่ายไฟฟ้าไปยังมอเตอร์ไฟฟ้า อีกทั้งยังช่วยชาร์จไฟแบตเตอรี่ด้วย ระบบไฮบริดแบบอนุกรมนี้มีมอเตอร์ 2 ตัว – เจเนเรเตอร์ 1 ตัว (ซึ่งมีโครงสร้างเหมือนกับมอเตอร์ไฟฟ้าทั่วไป) และมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว ระบบนี้ได้นำมาใช้งานในระบบโคสเตอร์ไฮบริด (Coaster Hybrid)
ระบบไฮบริดแบบคู่ขนาน
ในระบบไฮบริดแบบคู่ขนาน ทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าจะไปขับเคลื่อนล้อต่างๆ และกำลังขับเคลื่อนจากแหล่งพลังงานสองชนิดนี้สามารถนำมาใช้งานได้ตามสภาวะการณ์ต่างๆที่เป็นอยู่ ณ ขณะนั้น และที่เรียกระบบนี้ว่าระบบไฮบริดแบบคู่ขนาน ก็เพราะว่ากำลังที่ส่งไปยังล้อต่างๆ นั้น ถูกส่งไปพร้อมๆ กันเป็นคู่ขนาน ระบบนี้จะชาร์จไฟฟ้าโดยเปลี่ยนมอเตอร์ไฟฟ้าให้ทำงานเป็นเจเนเรเตอร์ ในขณะที่ใช้ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เป็นตัวขับเคลื่อนล้อต่างๆ แม้ว่าระบบนี้จะมีโครงส้างไม่ซับซ้อน แต่ระบบไฮบริดแบบคู่ขนานก็ม่สามารถส่งกำลังไปขับเคลื่อนล้อได้ในขณะที่ทำการชาร์จไฟฟ้าไปด้วยในคราวเดียวกัน เพราะว่าระบบมีมอเตอร์เพียงตัวเดียว
3)ระบบไฮบริดแบบอนุกรม / คู่ขนาน
ระบบนี้รวมเอาระบบไฮบริดแบบอนุกรมและแบบคู่ขนานไว้ด้วยกัน เพื่อใช้ประโยชน์จากสองระบบให้ได้มากที่สุด ระบบนี้มีมอเตอร์ 2 ตัว การทำงานของระบบนี้จะขึ้นอยู่กับสภาวะการขับขี่ว่าจะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าหรือจะใช้กำลังขับเคลื่อนจากทั้งมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ เพื่อดึงประสิทธิภาพการทำงานออกมาให้ได้สูงที่สุด นอกจากนี้ ระบบยังส่งกำลังขับเคลื่อนไปยังล้อต่างๆ ในขณะที่เจเนเรเอตร์สร้างกระแสไฟฟ้าเมื่อจำเป็น ซึ่งระบบนี้เป็นระบบที่ติดตั้งให้กับพรีอุสไฮบริดและเอสติมาไฮบริด

ออฟไลน์ ssuebsak

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 352
  • มงกุฎ: 3
    • ดูรายละเอียด
Re: เครื่องยนต์ ไฮบริด
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กรกฎาคม 31, 2012, 11:01:49 AM »
ต่อครับ ข้อความมากเกินกำหนด ของระบบ
------------------------------------------------------------------------------------------

การทำงานของระบบไฮบริด
ระบบไฮบริด จะควบคุมและผสมผสานการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในทุกสภาพการขับขี่ โดยสามารถอธิบายเกี่ยวกับระบบการทำงานของไฮบริด 7 สถานะ ดังนี้
1. เริ่มต้นขับเคลื่อน (ใช้ประโยชน์ของมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีแรงบิดต่ำในการออกตัว)
เมื่อเริ่มการขับเคลื่อนระบบไฮบริดจะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าซึ่งทำงานด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียวโดยที่เครื่องยนต์ที่จะไม่ทำงาน เนื่องจากเครื่องยนต์ไม่สามารถให้แรงบิดที่สูงได้ในจังหวะที่รอบเครื่องยนต์ยังต่ำอยู่ ซึ่งต่างจากมอเตอร์ไฟฟ้าซึ่งทำได้ และตอบสนองในการออกตัวที่ดีและนุ่มนวล
2. การขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ / ปานกลาง (ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ)
ในขณะขับขี่ด้วยความเร็วต่ำหรือปานกลาง เครื่องยนต์ไม่สามารถใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่มอเตอร์ไฟฟ้าจะใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ดังนั้น ระบบไฮบริดจึงใช้พลังงานไฟฟ้าซึ่งเก็บอยู่ในแบตเตอรี่เพื่อหมุนมอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนรถยนต์ในขณะขับขี่ด้วยความเร็วต่ำและปานกลาง
3. การขับขี่ความเร็วปกติ (ใช้เครื่องยนต์เป็นระบบขับเคลื่อนหลัก เพื่อใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ)
ระบบไฮบริดจะใช้เครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนในระดับความเร็วปกติเพื่อให้การใช้พลังงานมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยพลังงานที่ถูกผลิตขึ้นจากน้ำมันเชื้อเพลิงจะถูกนำไปใช้ขับเคลื่อนล้อทั้งสี่โดยตรง และขึ้นอยู่กับสภาวการณ์ต่างๆในการขับขี่ พลังงานส่วนหนึ่ง จะถูกส่งไปยังเครื่องกำเนิดไฟฟ้า โดยพลังงานที่ผลิตจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจะถูกส่งไปยังมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อช่วยเสริมการทำงานของเครื่องยนต์
4. การขับขี่ความเร็วปกติ / การชาร์จแบตเตอรี่ (การชาร์จแบตเตอรี่จากพลังงานส่วนเกิน)
เนื่องจากระบบไฮบริด จะทำหน้าที่ควบคุมเครื่องยนต์ให้ทำงานได้อย่างมีสมรรถนะสูงสุด จึงอาจทำให้เครื่องยนต์ผลิตพลังงานออกมามากเกินความจำเป็นในกรณีดังกล่าว พลังงานส่วนเกินที่ถูกผลิตออกมาจะถูกแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้า เพื่อเก็บไว้ในแบตเตอรี่
5. การเร่งเครื่องยนต์ (อัตราเร่งที่เหนือกว่าจากแหล่งพลังงานคู่)
เมื่อมีการเร่งเครื่องยนต์อย่างเต็มที่ เช่น ในขณะขับขี่ขึ้นทางลาดชันหรือในจังหวะเร่งแซง พลังงานจากแบตเตอรี่จะถูกส่งไปยังมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อช่วยเสริมการขับเคลื่อน และด้วยการผสานพลังงานทั้งจากเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้ระบบไฮบริด สามารถส่งพลังงานเพื่อไปขับเคลื่อนรถยนต์ เทียบได้กับเทียบได้กับรถยนต์ซึ่งมีเครื่องยนต์ที่ใหญ่กว่าหนึ่งเท่าตัว
6. การลดความเร็ว / การผลิตพลังงานเพิ่ม (พลังงานที่ได้จากการลดความเร็วจะถูกส่งไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่)
ในจังหวะเบรกหรือลดความเร็ว ระบบไฮบริดจะใช้พลังงานจลที่เกิดขึ้นเพื่อทำให้ล้อไปหมุนมอเตอร์ไฟฟ้าซึ่งทำงานเสมือนเป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้า และพลังงานความร้อนจากแรงเสียดทานเมื่อลดความเร็ว ก็จะถูกแปลงเป็นกระแสไฟฟ้าซึ่งจะถูกส่งไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่เพื่อใช้งานต่อไป
7. เมื่อหยุดอยู่กับที่ (ระบบทั้งหมดจะหยุดทำงาน เมื่อรถยนต์หยุดอยู่กับที่)
เครื่องยนต์ มอเตอร์ไฟฟ้า และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจะหยุดทำงานโดยอัตโนมัติ เมื่อรถยนต์หยุดอยู่กับที่ ดังนั้นจึงไม่มีการสูญเสียพลังงานใดๆ ทั้งสิ้น



ข้อดีของระบบไฮบริด
1. ประหยัดพลังงาน
ระบบไฮบริดช่วยเพิ่มประสิทธิภาพใช้เชื้อเพลิงในการขับเคลื่อนได้อย่างดีเยี่ยม โดยขณะออกตัว จะใช้พลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนเท่านั้น ซึ่งช่วยลดปริมาณการใช้เชื้อเพลิง และเมื่อลดความเร็วโดยการแตะเบรก เครื่องยนต์จะอยุดทำงาน เป็นการลดปริมาณการใช้เชื้อเพลิง และพลังงานคงามร้อนที่ปกติจะสูญเสียไปจะถูกแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้าเพื่อชาร์จไปเก็บไว้ที่แบตเตอรี่
2. ลดมลพิษ
ระบบไฮบริดสามารถช่วยลดมลพิษจากการปล่อยไอเสียด้วยการหยุดการทำงานของเครื่องยนต์ไนบางจังหวะของการขับเคลื่อน เช่น การจอดและการลดความเร็ว
3. อัตราเร่งราบรื่นไม่ติดขัด
ด้วยการผสานการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพของเครื่องยนต์มอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้รถยนต์ระบบไฮบนิดมีสมรรณะการขับขี่ที่ดีเยี่ยมในทุกสภาพการขับขี่ และยังให้อัตราดีกว่ารถยนต์ทั่วไปในรุ่นเท่าเทียมกัน
4. ไร้เสียงรบกวนขณะขับขี่
ระบบไฮบริดโดดเด่นด้วยคงามเงียบ ที่เป็นผลมาจากการขังเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขณะขับขี่ที่ความเร็วต่ำและจะดับเครื่องยนต์โดยอัตโนมัติขณะจอด
ส่วนแบตเตอรี่ไฮบริด นั้น ทำมาจากโลหะนิกเกิลไฮไดร สมรรถนะสูงขนาดกะทัดรัดที่พัฒนาเพื่อใช้กับระบบไฮบริดของ โตโยต้า (THS) และได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นในระบบไฮบริดของโตโยต้ารุ่นที่สอง (THS II) การลดความต้านทานภายในของแบตเตอรี่โดยการใช้โครงสร้างเครือข่ายใหม่ทั้งหมดระหว่างเซลล์ (แบตเตอรี่) ทำให้สารอิเล็กโทรดดีขึ้นส่งผลให้ความหนาแน่นการรับ/ส่งกำลังของแบตเตอรี่ใหม่ดีกว่าแบตเตอรี่รุ่นเดิม 35% ด้วยเหตุนี้ แบตเตอรี่นี้จึงเป็นแบตเตอรี่ที่มีความหนาแน่นกำลัง (กำลังต่อหน่วยของน้ำหนัก) สูงสุด แบตเตอรี่ไฮบริดใหม่นี้จะจ่ายไฟและชาร์จไฟจากเจเนเรเตอร์ และมิเตอร์เพื่อทำการชาร์จไฟอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้น จึงไม่มีความจำเป็นในการชาร์จไฟแบตเตอรี่จากแหล่งจ่ายไฟภายนอกเหมือนกับยานยนต์พลังงานไฟฟ้า
สำหรับแบตเตอรี่ไฮบริดนั้น โตโยต้าได้ทดสอบคุณภาพจนมั่นใจและคาดว่าจะรับประกันคุณภาพของแบตเตอรี่ไฮบริดที่ 5 ปี และราคาของแบตเตอรี่ไฮบริด นั้น อยู่ระหว่างการพิจารณาต้นทุน อย่างไรก็ตามคาดว่า ราคานั้นจะไม่สูงจนเกินไปเนื่องจากมีการผลิตในจำนวนที่มากพอ

ออฟไลน์ Wa

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 26
  • มงกุฎ: 1
    • ดูรายละเอียด
Re: เครื่องยนต์ ไฮบริด
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กรกฎาคม 31, 2012, 12:49:23 PM »
ต้องทำความเข้าใจวัตถุประสงค์ของมันก่อน คือ "ไฮบริด" เพื่อสิ่งแวดล้อมนะครับ
คนแถวบ้านผมเขาซื้อมาเพราะ "ประหยัดน้ำมัน" ใช้แล้วก็มาบ่นว่าค่าบำรุงรักษาแพงไม่คุ้มกับน้ำมันที่ประหยัด...ฯลฯ

เพราะฉะนั้นถ้าจะใช้มันได้อย่างเต็มใจ ต้องเป็นคนประเภท "รักษ์โลก" ในระดับหนึ่ง
อย่าไปคิดเล็กคิดน้อย อันนู้นแพงไหม อันนี้แพงไหม .. เอาเป็นว่า ทำให้โลกดีขึ้น นิดหนึ่ง ก็คุ้มแล้วครับ
ถ้าคนละนิด คนละหน่อย มันก็รวมๆ มากขึ้นเอง

แค่ท่าน jubu คิดจะใช้มัน ก็พูดได้ว่าเสียสละเพื่อส่วนรวม เพื่ออนาคตลูกหลานแล้วครับ ..
ผมเองถ้าอยู่ในฐานะที่จะซื้อได้ก็ต้องใช้แน่นอน..ตอนนี้ก็เล็ง ฮอนด้า แจ๊ส ไฮบริด อยู่ ราคามันอาจจะพอเอื้อมถึง

ออฟไลน์ jubu

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 376
  • มงกุฎ: 3
  • เพศ: หญิง
    • ดูรายละเอียด
Re: เครื่องยนต์ ไฮบริด
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กรกฎาคม 31, 2012, 04:03:58 PM »
เท่าที่jubu ดูราคาเทียบสเป็คของแจ๊สไฮบริด jubuคิดว่าวิธีการรักษ์โลกแบบที่ท่านwaว่ามานั้น มันไม่สมเหตุสมผลเลยค่ะ เราช่วยลดภาระทางมลพิษให้แก่โลก และลูกหลาน แต่เรากลับสนับสนุนค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มของเทคโนโลยีนี้ให้แก่ทางบริษัทผู้ผลิต ขั้นตอนนี้ยังไม่รวมถึงภาระของแบตเตอรี่ลูกต่อไปที่จะต้องจ่ายหลังจากผ่านห้าปีแรกไปแล้ว  ราคาแบตเตอรี่จะถูกลงเมื่อมีผู้ใช้มากขึ้นและกำลังผลิตมีมากขึ้น แต่การตัดสินใจขั้นแรกก็ต้องหยุดชะงักลงไปแล้วด้วยเหตุผลที่ราคาค่าตัวของเทคโนโลยีไฮบริดนี้มันคือภาระของผู้บริโภคล้วนๆ ถ้าผู้ผลิตเทคโนโลยีนี้พบกันครึ่งทางกับผู้บริโภค นั่นล่ะจะส่งผลให้กับจุดประสงค์ที่ทำไฮบริดขึ้นมาเพื่อ รักษ์โลก อย่างชัดเจน  ไฮบริดที่ต่างเมืองวิ่งกันให้เกลื่อนเมืองเลยค่ะ อย่างนี้แล้วคนที่ตัดสินใจซื้อรถไฮบริดในประเทศไทย คงต้องแบกรับภาระต่อไปหรือไม่หนอ .....  ในใจjubuชอบเทคโนโลยีไฮบริดค่ะ แต่คงต้องชั่งน้ำหนักดูอีกทีซะแล้ว จะรักษ์โลก หรือรักตัวเองดีน๊า

ออฟไลน์ อินทะเนียร์น้อย

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6114
  • มงกุฎ: 3
    • ดูรายละเอียด
Re: เครื่องยนต์ ไฮบริด
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กรกฎาคม 31, 2012, 07:11:59 PM »
เดี๋ยวมาแจม ครับ  จบข่าว

ออฟไลน์ jojo

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 16
  • มงกุฎ: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: เครื่องยนต์ ไฮบริด
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กรกฎาคม 31, 2012, 11:45:26 PM »
     อ่านๆดูแล้วมีแต่ข้อดีครับ ผมก็อยากได้ แต่!!!!
     

       1.สิ่งแวดล้อมทางอากาศอาจจะใช่ทีมันรักษาได้   แต่หนทางในการกำจัดแบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพละครับ

         เพราะมันคือสารพิษนะครับ ลิเที่ยมเนี่ย แม้แต่ถ่านไฟฉายก้อนเล็กๆยังห้ามทิ้งลงแม่น้ำเลยครับ

       2.ต้นทุนค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่ ตีไว้ได้เลยครับ ไม่ต่ำกว่าหนึ่งแสนห้าหมื่นบาทต่อห้าปี(ถ้าเสียหรือเสื่อม) ลองหารดูครับ

         ต้องหยอดกระปุกเตรียมไว้ ตกวันละแปดสิบกว่าบาทเป็นเวลาห้าปีเต็มครับ

 
    ปล.ถ้าท่านพี่jubu จะใช้แจ๊ส ไว้วิ่งตจว.มันผิดคอนเซปไปแล้วครับ  เพราะรถมันเบาหวิวครับสวนกับมอเตอร์ไซค์ยังมีแกว่งเลย
ไว้ขับในเมืองจะเหมาะกว่า  ส่วนแจ๊สไฮบริด ต้องคิดให้ดี เพราะนี่เป็นรุ่นหนูลองยาครับ ระบบไฮบริดของฮอนด้ายังไม่สู้โตโยต้าแน่นอนครับ

ออฟไลน์ adulmr

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 772
  • มงกุฎ: 1
    • ดูรายละเอียด
Re: เครื่องยนต์ ไฮบริด
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: สิงหาคม 01, 2012, 12:06:10 PM »
มีอีกทางคือ มาตรการด้านภาษีไงครับ
อยู่ที่ว่ารัฐบาลจะลงมือทำกันไหม ?

หรือว่าเค้ามัวแต่ไปคิดว่า มีเงินซื้อรถแล้วแสดงว่ารวยล่ะสิท่า ล่อไฮบริดเสียด้วย
ตู(รัฐบาล) ต้องรีดภาษีมันให้หลังอานไปเลย
หากคิดแบบนี้ก็จบข่าวล่ะครับ

ผมว่านะ อีตอนที่ระดับบิ๊กๆของโลกเค้าประชุมเรื่องโลกร้อนน่ะ
ทำไมไม่ออกธรรมนูญให้รัฐบาลทุกประเทศส่งเสริมเรื่องมาตรการลดโลกร้อนทุกวิถีทาง
ลดภาษีรถไฟฟ้าหรือไฮบริด ก็น่าจะอยู่ในข่ายนี้
ไม่งั้นรถไฟฟ้าไม่มีทางเกิดครับ
นี่ยังไม่นับที่ท่าน jojo บอกมา ในเรื่องปัญหากากแบตเตอรีอีก
กลุ้ม

ออฟไลน์ อินทะเนียร์น้อย

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6114
  • มงกุฎ: 3
    • ดูรายละเอียด
Re: เครื่องยนต์ ไฮบริด
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: สิงหาคม 01, 2012, 07:29:26 PM »
มันดีจริง อย่างที่ท่าน ssuebsak ว่ามาครับ...มอเตอร์ไฟฟ้ามีประสิทธิภาพสูงกว่าเครื่องยนต์ ชัดเจนครับ....แต่ทำไมถึงไม่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามาขายแบบเปลี่ยนขั้วไปเลย ....เหมือนเครื่องสันดาปภายในกับภายนอกในอดีตครับ....มาที่รถถไฟฟ้า ก็อย่างที่ท่านjojoตั้งข้อสังเกตุเรื่อง แบตฯเก่านะครับ ทำลายสิ่งแวดล้อมจริงๆครับ ขอขัดใจท่านWA นะครับ...เอาไว้ได้แหล่งพลังงานไฟฟ้าใหม่ปัญหานี้ หมดไปครับ  (จะ รอ พรรครักสยาม  มาร่วมกันร้องเพลง สูขกันเถอะเรา ก่อน อะเป่า  อิอิ)...
..ในความเห็นนะครับ ท่าน ่ีิีjubu...รถไฟฟ้ายังไม่นิ่งครับ  ยิ่งเป็นมือใหม่ แล้วอย่าเพิ่งครับ....รอให้เสด็จน้ำกว่านี้ก่อนครับ ก็ฟาดมันรถ น้ำมันที่เป็น โซฮอลย์ไปก่อนครับ E85  ประมาณนั้น  อิอิ...ได้ข่าวว่า แบตฯกำลังพัฒนา ให้ดีขึ้นอยู่เรือยๆครับ รวมทั้ง โซล่าเซลด้ว...จะเป็นโซล่าฟิล์ม เหมือน ที่ท่าน ขงเบ้ง(ท่านmaxx) ของเรามาบอกครั้งนั้น   เชื่อว่าไม่เกิน 10 ปีนี้ เปลี่ยนแนวครับ(จานบิน ก็ใกล้เข้ามแล้ว  อิอิ   อย่าลืม 7 สค ตอนราวๆเที่ยง ดูถ่ายทอด พี่กัน เอายานลงจอด ดาวอังคาร ครับ  อิอิ)...ตามนั้นนะครับ ท่านjubu  ...  เอ  หรือ จะถามหมอรุจ  ดีครับ ท่าน อดุลย์  อิอิ   จบข่าว

ออฟไลน์ ssuebsak

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 352
  • มงกุฎ: 3
    • ดูรายละเอียด
Re: เครื่องยนต์ ไฮบริด
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: สิงหาคม 02, 2012, 04:35:08 PM »
หวัดดีครับ กลับมาแล้ว เลยขอแจม ทีละประเด็นละกัน นะครับ

เรื่อง ค่าแบตฯ ที่จะต้องใช้เปลี่ยน ลองหันไปมองอีกภาพไหมครับ
แบตฯ โน๊ตบุคส์ ที่หลายท่านใช้ สามารถหาซื้อ หรือ เปลี่ยนเฉพาะใส้ได้ ในหลายๆแห่ง ที่เป็น ศูนย์คอมฯ ตามห้าง

แล้ว ทำไม กับ แบตฯ รถไฮบริด ช่างไทย จะทำไม่ได้  เหมือนกับ รถเก่าของผมที่พังไปแล้ว ตอนนั้นมี ปัญหากล่อง CBU พังเพราะไฟซ๊อต รถทำอะไรไม่ได้ แม้แต่ สตาร์ท ค่ากล่อง ของศูนย์ ราวสองหมื่น ของเชียงกง แปดพัน เดี๋ยวนี้ เอากล่องที่พัง ไปให้ร้านซ่อม ไม่เกิน 5 พัน เผลอๆราว 3 พันเอง

การพัฒนาของรถ ทางการตลาด ลองมามองดูกันให้ดีๆ  รถยนต์ไฮบริด ผมเชื่อว่ามีวิ่งอยู่ใน ต่างประเทศ นานแล้ว และเขากำลังเริ่ม ทะยอยเปลี่ยนไปหา รถไฟฟ้า ในกลุ่มรถใช้ในเมือง หรือ เดินทางระยะสั้น ( ตอนนี้มีสถิติทำได้ 260 ไมล์ /เกือบ 400 กิโลเมตร/ ต่อการชาร์ทแบตฯ 4 - 6 ชั่วโมง )

การบริหารการตลาด โดยการเปลี่ยน ซัพพลาย แบบหักคอ ไม่สามารถทำได้ง่ายๆครับ  การตลาดจึงจำเป็น ต้องค่อยๆเปลี่ยน พฤติกรรม ผู้บริโภคให้คล้อยตามไป เรื่อยๆก่อน ก่อนที่จะเปลี่ยนอย่างสมบูรณ์
จะเห็นได้จาก การเปลี่ยน พฤติกรรม จากเครื่องยนต์ สองจังหวะ ของมอเตอร์ไซด์ ไปเป็น สี่จังหวะ  ซึ่ง ฮอนด้า เป็น เจ้าแรก ที่ออกรถมอเตอร์ไซด์ เครื่องยนต์ สี่จังหวะ

ส่วนประเด็น ที่มีคำแนะนำว่า เครื่องยนต์ไฮบริดของ ฮอนด้า สู้ โตโยต้า ไม่ได้นั้น ผมยังไม่ค่อยเชื่อเท่าใดนัก เพราะทั้งสองค่าย ต่างก็มี เทคโนโลยีไม่แพ้กันมากนัก และ การออกแบบของทั้งคู่ต่างกัน (บังเอิญ ไม่มีเวลาศึกษาลงลึกครับ ลองติดตามดูละกัน )
ส่วนเรื่อง Jass วิ่ง ตจว. แล้วอันตราย อันนี้ ขอเถึยง เพราะผมเคยเห็น คนขับ ไดฮัทสุ มิรา ไปเชียงใหม่มาแล้ว 
นั้น ยิ่งว่า มอไซด์ สวนแล้ววูบ  และผมเชื่อว่า ระบบความปลอดภัย ต้องออกแบบอย่างมี มาตรฐาน เพียงแต่ ผู้ใช้ควรรู้ว่า เป็น รถใช้ในเมือง หรือ รถสำหรับการเดินทางของครอบครัว  ซึ่งวัตถุประสงค์ของการออกแบบ มันต่างกัน 

ส่วนความเห็นของท่าน อดุลย์ เรื่องการลดภาษีของสินค้า ที่ช่วยลดมลภาวะ ต้องขอเรียนว่า มีมานานแล้วครับ
แต่ท่านต้อง แสดงรายละเอียดต่อ สรรพากร หรือ สรรพสามิต ให้ชัดเจนได้ว่า สินค้านั้นเป็น "กรีน โปรดักส์" จริงๆ  ไม่ใช่การ เผาผลาญพลังงาน มีไอเสีย โดยเครื่องยนต์ แล้ว ผสมกับ มอเตอร์ไฟฟ้า แล้วเรียกว่า การลดมลพิษ  มันยังมีการสร้างมลพิษอยู่ เพียงแต่น้อยลง  ซึ่งต้องไปพิสูจน์กันทางวิทยาศาสตร์ และ วิศวกรรม 
ซึ่งผมคาดว่า ทั้ง โตโยต้า ฮอนด้า และ ยี่ห้ออื่นๆ ย่อมต้องมีฝ่ายกฎหมาย ที่เข้าใจเรื่องเหล่านี้ดีอยู่แล้ว 
แต่ระดับราคาที่ยังไม่ลดลงมาโดยรวม ผมเชื่อว่ามาจาก ค่าการตลาด+กำไร ที่ยังเคาะไว้สูง เนื่องจาก คู่แข่งน้อย และ ฮอนด้า กับ นิสสัน เพิ่งจากเริ่ม ออกรถรุ่น ไฮบริด ในไทย ทั้งๆที่ มันวิ่งกันเกลื่อนเมือง ในประเทศอื่น
(เป็นความเชื่อส่วนตัว ห้ามเชื่อถือตาม จนกว่าท่านจะได้ พิสูจน์แล้ว)

การส่งเสริมให้ รัฐบาลแต่ละประเทศ ออกกฎหมายส่งเสริมการลดมลพิษ  หากท่านตามข่าวดีๆ จะพบว่า ปฏิณญา โตเกียว เรื่องการให้ความร่วมมือลดสภาวะเรือนกระจก หรือ การลดมลพิษ ประเทศใหญ่ๆ บางประเทศ ไม่ยอมลงนามความร่วมมือ จนมาถึง รอบโดฮา ที่เกาหลี ก็ยังถกกันอยู่ไม่จบ แต่ลงนามหรือยัง ผมไม่แน่ใจ

การพัฒนา แบตฯ ก็อย่างที่ท่าน อินทะเนียร์น้อย กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ 

แต่วันที่ 7 ส.ค. คงไม่มีโอกาส ได้ดู ถ่ายทอด ตามที่ท่านอินฯ เชิญชวน เพราะรู้ตัวดีว่า คงอยู่ในกลุ่ม ครูช่าง ที่ไหนสักแห่ง ในเขตดอนเมือง พร้อมกับ สินค้า ที่ชอบใช้ นางฟ้า นางใน วรรณคดี มาโฆษณาหลังสี่ทุ่มไปแล้ว
หมดโอกาสได้ดูแน่นอน ชัวร์
 

ออฟไลน์ อินทะเนียร์น้อย

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6114
  • มงกุฎ: 3
    • ดูรายละเอียด
Re: เครื่องยนต์ ไฮบริด
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2012, 09:54:49 AM »
ครับ ท่านssuebsak..จะพยายามหาคลิป จากช่องยูทูป มาฝากครับ..จริงครับเคยได้ยินเหมือนกันว่า ตปท เค้าตื่นตัวมากแล้ว บางคนก็เปลี่ยน เครื่องออกเอามอเตอร์แทนใช้งานได้เเล้วไม่ง้อเครื่องยนต์ครับทำเองที่บ้านเลยครับ   ก้อคงรอเเบตฯที่ประสิทธิภาพสูงเท่านั้นครับ   ยั่งที่เคยเล่าให้ฟังว่า มี บริษัท หนึ่งในไทย กำลังทำแบตฯชนิดใหม่อยู่ โดยจ้างฝรั่งเจ้าของลิขสิทธิ์ ทำมาราวสิบปีแล้ว หมดเงินกู้เป็น พันล้าน...ผลคือ ไม่มีอะไรในกอไผ่...นับถือแห่งความเป็น เอดิสันเมืองไทยจริง  ๆครับ  นี่จีนก็กำลังจะทำโซล่าฟิล์มออกมาขายแล้ว  เฮ้อ  กลุ้ม(บริษัท ที่ว่าจะทำมาขายทันจีนเป่า ไม่ทัน พันล้าน คืนยาก  )  .จบข่าว

ออฟไลน์ ssuebsak

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 352
  • มงกุฎ: 3
    • ดูรายละเอียด
Re: เครื่องยนต์ ไฮบริด
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2012, 07:56:47 PM »
ที่เคยเล่าให้ฟังว่า มี บริษัท หนึ่งในไทย กำลังทำแบตฯชนิดใหม่อยู่ โดยจ้างฝรั่งเจ้าของลิขสิทธิ์ ทำมาราวสิบปีแล้ว หมดเงินกู้เป็น พันล้าน...ผลคือ ไม่มีอะไรในกอไผ่...นับถือแห่งความเป็น เอดิสันเมืองไทยจริง  ๆครับ  นี่จีนก็กำลังจะทำโซล่าฟิล์มออกมาขายแล้ว  เฮ้อ  กลุ้ม(บริษัท ที่ว่าจะทำมาขายทันจีนเป่า ไม่ทัน พันล้าน คืนยาก)

ในช่วงนั้น ผมจำได้ว่า เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับ ทีมวิจัยรายหนึ่ง ซึ่งท่านไม่ได้บอกรายละเอียด เพียงแต่ ช่วยทำชิ้นส่วน และการเคลือบสาร ให้ท่านไป เพราะเขาบอกว่า เป็นความลับ งานยังอยู่ในช่วงวิจัย พอผ่านไป ก็ไม่ได้ติดต่อ จึงไม่ทราบความเคลื่อนไหวอีกเลย

ออฟไลน์ อินทะเนียร์น้อย

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6114
  • มงกุฎ: 3
    • ดูรายละเอียด
Re: เครื่องยนต์ ไฮบริด
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: สิงหาคม 04, 2012, 09:20:26 AM »
น่าจะยัง...เคลื่อนไหว  อยู่นะครับ  ท่านssuebsak...แต่จะเคลื่อนไหวช้าลงๆ..เรื่อยๆ.อิอิ    หัวใจเริ่มเต้นช้าๆๆๆๆทุกขณะ   อิอิ(  รอเวลา ดึงสายxx  ..เศร้า )    จีนผงาดแล้วเรื่องนี้..อีกไม่นานได้ใช้ของใหม่แน่ครับ  พี่น้อง   จบข่าว

ออฟไลน์ jubu

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 376
  • มงกุฎ: 3
  • เพศ: หญิง
    • ดูรายละเอียด
Re: เครื่องยนต์ ไฮบริด
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: สิงหาคม 05, 2012, 09:40:42 PM »
อ้างถึง
กล่อง CBU พังเพราะไฟซ๊อต รถทำอะไรไม่ได้ แม้แต่ สตาร์ท ค่ากล่อง ของศูนย์ ราวสองหมื่น ของเชียงกง แปดพัน เดี๋ยวนี้ เอากล่องที่พัง ไปให้ร้านซ่อม ไม่เกิน 5 พัน เผลอๆราว 3 พันเอง

jubuเพิ่งเปลี่ยน ECU มาใหม่เลยค่ะ ปีที่แล้วเอากล่องไปซ่อมค่าซ่อม 6000 ใช้ไม่ถึงปีกล่องพังอีก แล้วก็โดนช่างหน้าเลือดขูดรีดจนเลือดซิบๆ ครั้งนี้จะคิดค่าซ่อมกล่องอีกราวๆ 7000(คนละอู่) หากซื้อกล่องใหม่คิด 24000  jubuตัดสินใจซื้อกล่องใหม่ค่ะ(สั่งนอกมาเอง) มือ 1 อิมพอร์ต เสียภาษีต่ำด้วยวิธีการที่ถูกต้องค่ะ เสียค่ากล่องมือ 1 ราคา19500+ค่าพิธีการศุลกากร 180 พอเอากล่องใส่รถวิ่งปร๋อเลย เสียค่าแรงไป 6000 บาท (เขาบอกว่ามีค่าลาก1000และค่าน้ำมันวิ่งเทสต์รถและวิ่งซ่อมกล่อง) jubuไม่ใช่นักเลงหัวไม้ก็เลยต้องจ่ายไปแต่โดยดี เพื่อจะเอารถออกจากอู่ได้ เฮ้อ

ออฟไลน์ อินทะเนียร์น้อย

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6114
  • มงกุฎ: 3
    • ดูรายละเอียด
Re: เครื่องยนต์ ไฮบริด
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: สิงหาคม 06, 2012, 09:45:37 AM »
ตัดสินใจถูกต้องครับ ท่านjubu...เพราะบางส่วนมันมี อายุของมันครับ ที่พวกซ่อม บอร์ดเก่านี้ เท่าที่ทราบมา ช่างจะ เปลียน ตัว C ในบอร์ดให้หมด ถ้า ฟลุก ก้อ โอเค ..ฟาด กันเต็มที่...ส่วนบางอย่างโปรแกรมหาย..อันนี้ ต้องพึ่ง อาจารย์ใหญ่เราครับ  อิอิ    จบข่าว