ก็มีข่าวขำๆมาเล่าให้ฟังกันอยู่เป็นประจำ..แต่ข่าวนี้ จาก นวพ บ้านเมือง ดูจะไม่อยากจะขำกับ เจ้าของรถ ที่จอดรถผิดกฏหมาย แล้วมาโวยวาย..อ้าว ว่าแล้ว ใบขับขี่ มันยังไม่มีเลย แล้ว จะให้สังคมเห็นใจได้ไง...นี่เรียกว่าเห็นแก่ตัวแบบไม่เห็นใจคนอื่นชนิดร้ายแรง...แหม่ กะเเดะ พูดฝรั่งอีก ..ซิงเกิ้ลมัม...จะอ้วกแตก..มีลูกตั้ง ห้าคน ...(เซ็กจัดจริงๆ ยอมรับ เฮ้อ)....ชมข่าวกันเลยจร้า....ที่เอามให้ชมนี่ เพราะว่า ตำรวจ จร เขาเอาจริง..แล้วจร้าาาาา...ใบขับขี่สอบ ใบขับขี่ซื้อ..พร้อมๆๆๆๆ...ยัยนี่ ปล่อยไป เอาให้หนักครับ หมวด....ผิดแล้วยังไม่รู้ตัวอีก...กลุ้มใจแทนคนข้างเคียง จริงๆๆๆ...จบข่าว


กรณีมีข่าวแพร่ในโลกโซเซี่ยล ว่า หญิงตามภาพถูกปรับ 100 บาท ข้อหา โดนล็อคล้อ นั้น ได้ตรวจสอบกับสารวัตรจราจร สน.วังทองหลาง แล้ว ได้ให้รายละเอียดว่า วันเกิดเหตุ น.ส.นภัสกรฯ( หญิงที่จอดรถผิดกฎหมายตามภาพ) ได้เข้ามาพูดคุย พร้อมแจ้งว่า ตนเองเป็น ซิงเกิ้ลมัม ต้องเลี้ยงลูก 5 คน ด้วยตัวคนเดียว และมีเงินติดตัวอยู่เพียง 100 บาท เจ้าหน้าที่จึงเรียกตรวจใบขับขี่ เพือออกใบสั่ง แต่ น.ส.นภัสกรฯอ้างว่า ไม่พกใบอนุญาตขับขี่ติดตัวมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเปรียบเทียบปรับ น.ส.นภัสกรฯ เป็นเงิน 100 บาท ในข้อหา ไม่พกใบอนุญาตขับขี่ติดตัวขณะขับรถ ส่วนเรื่องข้อหาถูกล็อคล้อและข้อหาอื่นที่เกี่ยวข้อง จะมีการดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ต่อไป
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136″ ผู้ใดดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่หรือ เพราะได้กระทำการตามหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
หมายเหตุมาตรา 136 แก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 41 ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ.2519
สรุป ทำผิดแล้วมาร้องห่มร้องไห้ เล่าความลำบาก อ้างมีเงินติดตัว 100 บาท แล้วก็ถูกปรับไป 100 ยังไม่จบนะครับ น.ส.มนัสชนกฯต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายที่ตัวเองได้กระทำลงไป ต่อไป ทั้ง การดำเนินคดี ข้อหา ถูกล็อคล้อ และ ดูหมิ่นเจ้าพนักงานทีกระทำตามหน้าที่ ที่มีโทษทั้งจำและปรับ ตามกฎหมาย ป.อาญา
มาตรา 136
ความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงาน
ตัวบท
ผู้ใดดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่หรือเพราะได้กระทำการตามหน้าที่ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
องค์ประกอบความผิด มาตรา 136 มีองค์ประกอบความผิดดังนี้
1. ดูหมิ่น
2. เจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่หรือเพราะได้กระทำการตามหน้าที่
3. โดยเจตนา
สรุปหลักเกณฑ์สำคัญ
1. ดูหมิ่น คืออะไร? คำไม่สุภาพ เป็นอย่างไร ดุหมิ่น นอกหน้าที่ ผิดหรือไม่?
ดูหมิ่น คือ การสบประมาท ดูถูก เหยียดหยาม ด่าทอ สาปแช่ง ค่อนขอด หรือทำให้ผู้อื่นลดคุณค่าลงในสังคม (ฎีกาที่ 1654/2514)
ถ้อยคำดูหมิ่น
เช่น “คุณแกล้งจับผม” “ลื้อชุ่ยมาก” “อั้วไม่ไว้ใจลื้อเดี๋ยวลื้อจะเอแของผิดกฎหมายยัดใส่อั๊ว”
“อ้าวจ่ามึงจับกู กูจะเอามึงออก” “ตำรวจเฮงซวย” “ลื้อชุ่ยมาก” “ผมผิดแค่นี้ใครๆ ก็ผิดได้”
หัวใจสำคัญ บางครั้งเพียงแสดงกิริยาท่าทางก็ผิดแล้ว เช่น ให้ของลับหรือเปลือยกายหรือฉีกใบสั่ง
คำพูดไม่สุภาพ คำปรารถ คำปรับทุกข์ หรือคำกล่าวน้อยใจ คำพูดเหล่านี้ไม่เป็นการดูหมิ่นเจ้าพนักงาน เช่น “แค่ร้อยโทกระจอกไม่อยากคุยด้วยหรอก’ “ผู้กองอย่างนี้เอากฎหมายมาพูดไม่มีศีลธรรม” “คุณเป็นนายอำเภออย่างไรไม่รับผิดชอบ” “โคตรแม่ง มึงเวลาเขาลักขโมยควายไป 2-3 วัน ตามหาไม่เจอเวลามีสุราเยือนจับเร็วนัก” “พวกคุณมาสร้างปัญหาคุณไม่ต้องมองหน้าผมหรอก คุณเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนกระจอกๆ ผมไม่กลัวหรอกใหญ่กว่านี้ผมก็ไม่กลัว” “ยิงคนละนัดไม่ต้องใช้กำปั้น”
หมายเหตุ “ถอดเครื่องแบบมาต่อยกันตัวต่อตัว” เป็นเพียงคำพูดไม่สุภาพ ซึ่งคำพิพากษาฎีกาที่ 4327/2540 กลับคำพิพากษาฎีกาที่ 1519/2520
ถ้าหากเจ้าพนักงานกระทำนอกหน้าที่ก็ไม่ผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงาน
ดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่แม้เป็นเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องเกี่ยวกับหน้าที่ก็ผิด ดูหมิ่นเจ้าพนักงานเพราะได้ปฏิบัติหน้าที่ (หมิ่นลับหลัง) ต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับหน้าที่เท่านั้นถึงจะมีความผิด
ข้อเปรียบเทียบกับมาตรา
ในระหว่างมาตรา 136 และ 198 ให้ถือว่ามาตรา 136 เป็น “บททั่วไป” ส่วนมาตรา 198 เป็น “บทเฉพาะ” แต่ในระหว่างมาตรา 198 และมาตรา 326 ให้ถือว่ามาตรา 326 เป็น “บทเบา” และมาตรา 198 เป็น “บทหนัก’ ตามมาตรา 90 จึงลงโทษตามมาตรา 198 เพราะโทษหนักกว่ามาตรา 326
การดูหมิ่นเจ้าพนักงานตามมาตรา 136 นั้นหากเป็นการกระทำ “ซึ่งหน้า” ก็เป็นความผิดตามมาตรา 393 อีกบทหนึ่งด้วยอย่างแน่นอน แต่น่าจะต้องถือว่า มาตรา 136 เป็น “บทเฉพาะ” และมาตรา 393 เป็น “บททั่วไป” จึงลงโทษตามมาตรา 136 อันเป็น “บทเฉพาะ